วธ.จัดฉลองโนราขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติยิ่งใหญ่ พร้อมชงสงกรานต์ขึ้นต่อปี 66
เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า เป็นความยินดีและภาคภูมิใจร่วมกันอีกวาระหนึ่งของคนไทยทุกคน ที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศขึ้นทะเบียนโนราของไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ในการประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลตามภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 16 ในรูปแบบออนไลน์ จากสำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เนื่องจากมีคุณสมบัติครบตามหลักเกณฑ์ทั้ง 5 ข้อของการขึ้นทะเบียนประเภท Representative List ด้วยอัตลักษณ์โดดเด่นทางด้านศิลปะการแสดงภาคใต้ที่สืบทอดมายาวนานนับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18-19 โดยเฉพาะด้านการปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม และงานเทศกาล และงานช่างฝีมือดั้งเดิม
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า จากรากฐานมาจากความเชื่อ และพิธีกรรมของชุมชนที่สืบทอดมายาวนาน ทำให้ปัจจุบันในพื้นที่ภาคใต้มีคณะโนราอาชีพมากถึง 387 คณะ ร้อยละ 70 อยู่ในพื้นที่รอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาสืบทอดสายตระกูลโนราชุมชน วัด และเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาทุกระดับ เรียกว่า เป็นนาฏยลักษณ์ของคนใต้ ซึ่งการได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะเกิดการพัฒนาการส่งเสริมรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของไทยให้เข้มแข็งกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสงวนรักษานำไปสู่ความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมโนราแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างความตระหนักรับรู้ถึงคุณค่าความสำคัญของโนราทุกรูปแบบ ตลอดจนการสร้างการมีส่วนร่วมของศิลปิน ชุมชนโนรา และสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการสืบทอดโนรา และขยายฐานผู้ปฏิบัติ ผู้ถือครองให้กว้างขวางและเข้มแข็ง
“จากการที่โนราของไทยได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินชาวโนรา และผู้ที่ชื่นชอบโนรา เพราะไม่เพียงแต่คนไทยจะได้ภาคภูมิใจกับศิลปะการแสดงที่ทรงคุณค่าแล้ว ยังทำให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงความงดงามของวัฒนธรรมไทยในมุมมองที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น สำหรับการขึ้นทะเบียนที่มรดกภูมิปัญญาฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกแล้ว 2 รายการ คือ โขนในปี 2561 นวดไทยปี 2562 และรายการที่ 3 โนราปี 2564 สำหรับในปี 2565 จะมีการเสนอสงกรานต์เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศไทยที่คาดว่าจะมีการพิจารณาในปี 2566 ในลำดับต่อไป” นายอิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าว
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า จากรากฐานมาจากความเชื่อ และพิธีกรรมของชุมชนที่สืบทอดมายาวนาน ทำให้ปัจจุบันในพื้นที่ภาคใต้มีคณะโนราอาชีพมากถึง 387 คณะ ร้อยละ 70 อยู่ในพื้นที่รอบลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาสืบทอดสายตระกูลโนราชุมชน วัด และเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาทุกระดับ เรียกว่า เป็นนาฏยลักษณ์ของคนใต้ ซึ่งการได้รับการประกาศขึ้นทะเบียน ถือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่จะเกิดการพัฒนาการส่งเสริมรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของไทยให้เข้มแข็งกระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการสงวนรักษานำไปสู่ความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมโนราแห่งประเทศไทยจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี เพื่อสร้างความตระหนักรับรู้ถึงคุณค่าความสำคัญของโนราทุกรูปแบบ ตลอดจนการสร้างการมีส่วนร่วมของศิลปิน ชุมชนโนรา และสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการสืบทอดโนรา และขยายฐานผู้ปฏิบัติ ผู้ถือครองให้กว้างขวางและเข้มแข็ง
“จากการที่โนราของไทยได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนกับยูเนสโก ทำให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะกลุ่มศิลปินชาวโนรา และผู้ที่ชื่นชอบโนรา เพราะไม่เพียงแต่คนไทยจะได้ภาคภูมิใจกับศิลปะการแสดงที่ทรงคุณค่าแล้ว ยังทำให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงความงดงามของวัฒนธรรมไทยในมุมมองที่แตกต่างมากยิ่งขึ้น สำหรับการขึ้นทะเบียนที่มรดกภูมิปัญญาฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนกับยูเนสโกแล้ว 2 รายการ คือ โขนในปี 2561 นวดไทยปี 2562 และรายการที่ 3 โนราปี 2564 สำหรับในปี 2565 จะมีการเสนอสงกรานต์เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของประเทศไทยที่คาดว่าจะมีการพิจารณาในปี 2566 ในลำดับต่อไป” นายอิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าว