สัปดาห์พระเครื่อง / อ.ราม วัชรประดิษฐ์ "เทพธิดางามวิมุติสุดประเสริฐ อุบัติเกิดในบัวบานกลางธารใส อุ้งหัตถ์ซ้ายวางดวงแก้วแพรวพิไล พระหัตถ์ขวากวักไกวในท่าทาง ทรงเครื่องอย่างพราวพรรณวรรณวิลาศ ขัดสมาธิราบเรียบเพียบพร้อมพร่าง ออกพระนาม 'สุนทรีวาณี นาง ศักดิ์สิทธิ์สร้างสืบทอดต่อลออองค์ อุบัติจากองค์พระสูตรพิสุทธิ์สา นาม 'สัททาวิเศษ' พิเศษสงฆ์ ตามคติมหายานอันอ่าองค์ เจตจำนงทำ 'มุทรา' ด้วยท่าทาง ปรากฏเหตุพระปิยะฯ ศรัทธาเกิด แปลความเลิศ 'สุนทรีวาณี' ร่าง คือนางฟ้าผ่องเพี้ยงเพียงเพ็ญภางค์ บัวสะพรั่งเปรียบโอษฐาพุทธาคุณ เป็นที่พึ่งแห่งมนุษย์สัตว์ทั้งหลาย สงบกายจิตแจ่มใสไม่ว้าวุ่น จะเรียนรู้สิ่งประเสริฐเจิดจำรูญ นบ พระสุนทรีวาณี จะมีชัย เป็นสิ่งศรีมณีวัดสุทัศน์ฯ แก้ว สถิตย์แล้วเทพธิดามากรายใกล้ สร้างรูปหล่อเหรียญสืบทอดตลอดไป บูชาไว้เจริญยิ่งมิ่งมงคล” เหรียญพระสุนทรีวาณี นับเป็นเหรียญที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของวัดสุทัศนเทพวราราม นอกเหนือไปจากบรรดาพระกริ่งอันเลื่องชื่อแล้ว เหรียญสุนทรีวาณี มีการจัดสร้าง 2 ครั้ง โดยใช้ชื่อเดียวกัน ครั้งแรกเป็นเหรียญที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) สร้างขึ้นในสมัยเป็นที่ พระพรหมมุนี ส่วนอีกครั้งหนึ่งนั้น บรรดาศิษยานุศิษย์ของ พระมงคลราชมุนี (สนธิ์ ยติธโร) ร่วมกันจัดสร้าง เหรียญพระสุนทรีวาณี เพื่อแจกเป็นที่ระลึกในวันพระราชทานเพลิงศพของพระมงคลราชมุนี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2495 ซึ่งเหรียญทั้งสองรุ่นนี้จะมีความแตกต่างกันทั้งเนื้อหามวลสารและลักษณะ พิมพ์ทรง ในที่นี้จะได้กล่าวถึง "เหรียญพระสุนทรีวาณี พระมงคลราชมุนี" ครับผม พระมงคลราชมุนี หรือ  เจ้าคุณศรี (สนธิ์) พระมงคลราชมุนี หรือ พระศรีสัจจญาณมุนี หรือที่ในวงการนักนิยมสะสมพระเครื่องและเหรียญคณาจารย์มักเรียกขานว่า "เจ้าคุณศรี (สนธิ์)" อันเป็นสมณศักดิ์ก่อนที่จะได้รับพระราชทานเป็นพระราชาคณะที่พระมงคลราชมุนี ท่านเกิดที่ ต.บ้านป่าหวาย กิ่ง อ.พระพุทธ บาท จ.สระบุรี เมื่อปี พ.ศ.2446 อายุได้ 11 ขวบ บิดาก็ถึงแก่กรรม มารดาจึงพาเข้ากรุงเทพฯ ฝากไว้กับพระภิกษุบุญ ซึ่งเป็นญาติที่วัดสุทัศนเทพวราราม เพื่อศึกษาร่ำเรียน อายุ 13 ปี บรรพชาเป็นสามเณร แล้วย้ายไปศึกษาร่ำเรียนกับพระพุทธิวิถีนายก เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ที่วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม จนถึงปี พ.ศ.2460 จึงย้ายกลับมาวัดสุทัศนเทพวรารามเช่นเดิม ท่านเป็นผู้ใฝ่รู้ตั้งใจศึกษาวิทยาการต่างๆ จนแตกฉาน สามารถสอบนักธรรมโทได้ตั้งแต่เป็นสามเณร และเมื่ออายุครบบวชในปี พ.ศ.2466 จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เมื่อครั้งเป็นพระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา "ยติธโร" ท่านสอบเปรียญธรรมเรื่อยมาจนได้เปรียญ 7 ประโยคในปี พ.ศ.2474 และได้รับแต่งตั้งสมณศักดิ์เรื่อยมา สมณศักดิ์สุดท้ายที่พระมงคลราชมุนี (สนธิ์) เหรียญสุนทรีวาณี เจ้าคุณศรี (สนธิ์) เป็นศิษย์เอกในสมเด็จพระสังฆราช (แพ) มีความใกล้ชิดและได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ในแขนงต่างๆ รวมทั้งได้รับการสืบทอด "ตำราการสร้างพระกริ่ง" ต่อจากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ ด้วย พระกริ่งที่เจ้าคุณศรี (สนธิ์) สร้างนั้น ล้วนเป็นที่นิยมสะสมไม่แตกต่างไปจากของพระอาจารย์ทีเดียว มีอาทิ พระกริ่งประภามณฑล พระกริ่งบาเก็งเจ้าคุณศรี พระกริ่งก้นถ้วยใหญ่-เล็ก พระกริ่งจาตุรงคมุนี และพระกริ่งทองทิพย์ เป็นต้น สำหรับ "เหรียญพระสุนทรีวาณี พระมงคลราชมุนี" ซึ่งบรรดาลูกศิษย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในวันพระราชทานเพลิงศพของพระมงคลราชมุนีนั้น ใช้กรรมวิธีการสร้างโดย "การหล่อ" ลักษณะพิมพ์ทรงคล้าย "กลีบบัว" เนื้อหามวลสารประกอบด้วยโลหะและเศษทองชนวนของพระกริ่งหลายๆ รุ่นของเจ้าคุณศรี (สนธิ์) มาผสมผสาน เททองหล่อด้วยฤกษ์พระราชทานเพลิงศพ กระแสเนื้อโลหะจะออกสีน้ำตาลอมเขียว ด้านหน้า เป็นรูปพระสุนทรีวาณีประทับนั่งขัดสมาธิเพชรเหนืออาสนะบัว ยกพระหัตถ์ขวาขึ้นระหว่างพระอุระในอาการแบบกวักเรียก พระหัตถ์ซ้ายมีดวงแก้ว พระเศียรเป็นรูปมงกุฎไม่เหมือน พระสุนทรีวาณี ของสมเด็จพระสังฆราช (แพ) ซึ่งพระเศียรเป็นพระพุทธรูป ส่วนด้านหลัง พื้นเรียบ มีอักษรปั๊มว่า "ม.ค.๑" หมายถึง "พระมงคลราชมุนี" เหรียญสุนทรีวาณี   หน้า-หลัง เหรียญพระสุนทรีวาณี พระมงคลราชมุนี นับเป็นวัตถุมงคลชิ้นสุดท้ายของพระมงคลราชมุนี หรือเจ้าคุณศรี ซึ่งลูกศิษย์ที่เคารพนับถือร่วมกันสร้างเพื่อระลึกถึง เหรียญพระสุนทรีวาณี จึงเป็นวัตถุมงคลอันทรงคุณค่าและเป็นที่นิยมสะสมชิ้นหนึ่งของ วัดสุทัศนเทพวรารามครับผม เหรียญสุนทรีวาณี   หน้า-หลัง