"โสภณ อาจจะไม่ได้ใส่สูทผูกไทน์ สวมรองเท้าหนังขัดมันแบบเต็มยศ ดังเช่นครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันวานที่ผ่านมา แต่โสภณในมาดใส่เสื้อโปโล กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบธรรมดา กับหมวกฟางกันแดดปีกกว้าง กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ความภาคภูมิใจ อิ่มเอมใจและยินดีต้อนรับทุกคนที่จะแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมที่บ้านสวน Fruit&Gardenแห่งนี้" เมื่อพูดถึงนึกการเมืองจากจังหวัดบุรีรัมย์ที่คนไทยคุ้นชื่อเชื่อว่าย่อมต้องมี “โสภณ ซารัมย์”อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และส.ส.หลายสมัยติดมาในรายชื่ออันดับต้นๆด้วยอย่างแน่นอน ทว่าในกระแสการเมืองแบบนี้อดีตนักการเมืองเลือดอีสานชื่อดังคนนี้กำลังถูกพูดถึงอีกครั้งในจังหวัดบ้านเกิดด้วยมิติที่ต่างออกไปจากเดิม เพราะวันนี้ โสภณ เลือกที่จะทิ้งระยะห่างจาก “การเมือง” แล้วหันไปใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติ ด้วยการเป็นเจ้าของโครงการบ้านสวน Fruit&Garden สวนเกษตรกรรมขนาดใหญ่ในอ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ @ เปิดบ้านสวน อันร่มรื่น สำหรับบ้านสวน Fruit&Garden เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ศึกษาดูงานที่กำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆในตอนนี้ ซึ่งภายในโครงการมีทั้งธรรมชาติที่ร่มรื่น น้ำตกจำลอง สวนผัก และผลไม้ อ่างเก็บน้ำ รวมถึงโรงเรือนสำหรับปลูกเมลอนอีกหลายสายพันธุ์ ซึ่งพืชและผักทั้งหมดในสวนนี้นอกจากจะสด สะอาดรสชาติดีแล้ว ยังได้รับการดูแลแบบปลอดสารพิษอีกด้วย ทำให้ผู้มาเยือนสามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากได้อย่างไร้กังวลอีกด้วย แนวคิดในการทำบ้านสวน Fruit&Garden ของ โสภณ เริ่มต้นจากการนำที่ดินของครอบครัวกว่า 80 ไร่ มาสร้างประโยชน์ให้กับชุมชน โดยสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร ที่เรียกว่า “เกษตรประณีต”หรือเรียกอีกชื่อว่า “การทำเกษตรแบบหนึ่งไร่ หนึ่งแสน” ซึ่งรับประกันว่าภายใน 1 ปีเกษตรกรจะมีกำไรจากสวน 1 ไร่นี้เป็นเงิน 1 แสนบาท โดยมีเงินเข้ามาในครัวเรือนวันละ 200 บาทต่อวันต่อไร่ แบ่งเป็นการปลูกพืชวัน พีชเดือน และพีชหลายเดือน ซึ่งในวันก็มีทั้งพืชใต้ดิน พีชบก พีชบนดิน เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ชะอม พริก มะเขือ มะละกอ มันเทศ กล้วยหอม ส้มโอ ข้าวโพด ผักหวาน หม่อน ซึ่งเป็นพืชที่ให้ผลผลิตทั้งปี โดยนำมาปลูกแซมกันไป เพื่อให้เก็บผลผลิตได้เรือยๆตลอดปี ด้วยพื้นฐานประสบการณ์ที่เติบโตมาจากครอบครัวเกษตรกร อีกทั้งยังเป็นอดีตครูในชุมชน จึงได้ทั้งคุ้นเคยและคลุกคลี สัมผัสกับชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด จึงรู้ดีว่าวิถีของชาวบ้านนั้นไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยการสั่งสอนบรรยาย แต่ต้องทำเป็นตัวอย่างให้เห็นให้ชาวบ้านสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้ตลอดเวลา เพื่อให้ได้ค่อยๆเห็น ค่อย ๆเรียนรู้ และเติบโตไปพร้อม ๆกัน แสดงให้เห็นว่าการปลูกพืชเชิงเดียวในปัจจุบันนั้นเป็นวิธีการที่ล้มเหลวชาวบ้านควรเรียนรู้ที่จะปลูกพืชชนิดใหม่ ๆที่มีราคาสูงในท้องตลาดหมุนเวียนกันไป สุดท้าย โสภณ จึงตัดสินใจร่วมกับครอบครัวเนรมิตบ้านสวน Fruit&Garden แห่งนี้ขึ้น ด้วยเป้าหมายหลัก 3 ขั้น 1.การทำเกษตรปลอดสาร เน้นให้กับเกษตรกรปลอดภัย ผู้บริโภคปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมปลอดภัย สร้างเครือข่ายผักปลอดสารพิษออกสู่ตลาด ส่งเสริมและให้ความรู้เกี่ยวกับการผลิตปุ๋ยหมัก และปุ๋ยชีวภาพ เพื่อใช้ในเครือเรือน ส่งเสริมให้ชาวบ้านแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร โดยการทำโรงงานแปรรูปน้ำตาลอ้อย ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าของอ้อยได้ถึง 10 เท่า 2. การทำการเกษตรเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกร และผู้ที่มีความสนใจมาศึกษาดูงาน รวมถึงการสร้างแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวอีสาน มีการสาธิตการสาวไหม การมัดย้อม และการทอผ้าไหม รวมไปถึงวิถีชีวิตแบบท้องถิ่นอื่นๆอีกด้วย 3.การทำให้บ้านสวน Fruit&Garden เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการพัฒนาพื้นที่ให้สามารถรองรับความต้องการทางด้านนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น @ พิสูจน์ผลผลิตด้วยคุณภาพ -ปริมาณ เป้าหมายของโครงการบ้านสวน Fruit&Garden ทั้ง 3 ข้อนี้กำลังได้รับการพิสูจน์จากผลผลิตที่มากไปด้วยคุณภาพ และปริมาณ จึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างสูง อีกทั้งราคาก็ยังเป็นมิตรกับผู้บริโภคอีกด้วย ทำให้ในปัจจุบันมีชาวบ้านหันมาเข้าร่วมโครงการมากขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก็ให้ความสนใจมายเยี่ยมเยือนอยู่ไม่ขาดระยะ ทั้งเพื่อมาศึกษาดูงานและเพื่อพักผ่อนหย่อนในธารน้ำตกจำลองที่ได้รับการตกแต่งอย่างตั้งใจให้เหมือนกับธรรมชาติของจริงอย่างที่สุด และเมื่อได้กลับมาทำงานคลุกคลีกับขาวบ้านอีกครั้ง โสภณ จึงได้ร่วมกับชาวบ้าน ตั้งชมรม “คนทำดีเพื่อพ่อของแผ่นดิน” ขึ้น โดยมีจุดประสงค์หลัก 3 ข้อคือ 1. การถือศีลปฏิบัติธรรม ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเข้าพรรษามีการเข้าวัดเพื่อสวดมนต์และปฏิบัติธรรมร่วมกันในทุกหมู่บ้าน 2.การดำเนินตามรอยพ่อพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยการน้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาใช้เป็นต้นแบบในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข และมีความพอเพียงไปพร้อมๆกัน โดยเริ่มจากการทำเป็นตัวอย่างให้เห็น 3. การปลูกต้นไม้ป่าหนึ่งแสนต้น ถวายในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมายุครบ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งได้รับการพระราชทานชื่อว่า “สวนป่าเฉลิมพระเกียรติฯ” โดยสวนป่าฯนี้แบ่งออกเป็น 17 แปลง ตามจำนวนหมู่บ้านของตำบลเมืองแฝก มีการจัดประกวดทุกสิ้นปี เพื่อคัดเลือกผู้ชนะที่ดูแลต้นไม้ได้ดีที่สุด และนำเงินรางวัลไปพัฒนาหมู่บ้านต่อไป @ อุทิศตนตอบแทนประชาชน แม้ว่าในปัจจุบันนี้ โสภณ จะไม่ได้ตำแหน่งทางการเมืองใด ๆแล้ว แต่คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอดีตรัฐมนตรีวัยใกล้เกษียณคนนี้ยังคงเป็นที่รักและเคารพของชาวบ้านในพื้นที่อยู่เช่นเคยจากการอุทิศตัวด้วยความตั้งใจจริงที่จะตอบแทนบุญคุณของประชาชน และแผ่นดินเกิด โดยการสร้างสวนเกษตรตัวอย่าง เผยแพร่ความรู้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่สนใจ และสร้างรายได้ให้กับชุมชน โสภณ อาจจะไม่ได้ใส่สูทผูกไทน์ สวมรองเท้าหนังขัดมันแบบเต็มยศ ดังเช่นครั้งที่ยังดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันวานที่ผ่านมา แต่โสภณในมาดใส่เสื้อโปโล กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบธรรมดา กับหมวกฟางกันแดดปีกกว้าง กลับเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ความภาคภูมิใจ อิ่มเอมใจและยินดีต้อนรับทุกคนที่จะแวะเวียนเข้ามเยี่ยมชนที่บ้านสวน Fruit&Gardenแห่งนี้ เมื่อหยอดถามว่าโครงการบ้านสวน Fruit&Garden สมบูรณ์แบบอย่างนี้ หากมีการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเล่นการเมืองต่อหรือไม่ โสภณ ยิ้มแย้มนิด ๆก่อนจะตอบว่า “ถ้ากฎระเบียบตึงขนาดนี้ ขอเป็นชาวสวนน่าจะมีความสุขมากกว่านะ” หากใครแวะเวียนไปเที่ยวบุรีรัมย์ ก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวชม บ้านสวนแห่งนี้กันได้ รับรองว่าคุณจะได้ทั้งความรู้ ความสุขและผลผลิตการเกษตรปลอดสารพิษ ติดไม้ติดมือกลับมาอีกด้วยแน่นอน เรื่อง :ชนิดา สระแก้ว เอื้อเฟื้อภาพจากโสภณ ซารัมย์