เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ 25 ก.ย. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนและประสานงานการปฏิรูปองค์กรตำรวจพร้อมด้วย พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผบช.สพฐ.ตร. และ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.น.8 เดินทางมาตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิรูประบบงานสอบสวน การรับแจ้งความ และงานนิติวิทยาศาสตร์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ โดย พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ได้จัดเจ้าหน้าที่กองเกียรติยศเพื่อต้อนรับคณะ รอง ผบ.ตร.และผู้บังคับบัญชาที่มาตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ด้วย สำหรับการตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิรูประบบงานสอบสวน การรับแจ้งความ และงานนิติวิทยาศาสตร์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ในวันนี้มีขึ้นก่อนที่ พล.ต.อ.พงศพัศ จะเกษียณอายุราชการ 5 วัน โดยเจ้าตัวได้ทักทายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาร่วมงาน เดินตรวจลานจอดรถของผู้มาใช้บริการที่โรงพัก ตรวจห้องน้ำประชาชน สำรวจการทำงานของพนักงานสอบสอบ การทำงานของเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ ตรวจห้องทำงานของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เข้าเวรประจำการ รวมถึงเยี่ยมชมห้องทำงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในงานตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมง พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ขณะนี้การปฏิรูปในภาพรวมของสถานีตำรวจ ดำเนินการไปแล้ว จำนวน 514 แห่งทั่วประเทศ อยู่ระหว่างเตรียมการประเมินผลความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ส่วนที่เหลืออีก 968 แห่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการต่อ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.59 หรือสิ้นปีนี้ซึ่งถือว่าสำเร็จก่อนกำหนดการ ที่ได้ลงมือทำงานกันตั้งแต่ เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหลังการปฏิรูประบบงานสอบสวนและการบังคับใช้กฎหมายในสถานีตำรวจทั้ง 1,482 แห่ง ทั่วประเทศสามารถดำเนินการได้เสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจะมีการประเมินผลความพึงพอใจของประชาชนผู้มาใช้บริการ และพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขในประเด็นต่างๆ ที่พี่น้องประชาชนมีข้อเสนอแนะ ทั้งนี้ เพื่อให้การอำนวยความยุติธรรมในเบื้องต้นเป็นไปด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม ได้รับความเชื่อถือไว้วางใจจากประชาชน และไม่เกิดความเหลื่อมล้ำขึ้นอีก พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวด้วยว่า ชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุประจำโรงพัก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ขณะนี้ในพื้นที่ บช.น. มีประจำอยู่ 2 โรงพัก คือ สน.บางเขน รับผิดชอบกรุงเทพมหานครฝั่งเหนือ สน.ราษฎร์บูรณะ รับผิดชอบกรุงเทพมหานครฝั่งธนบุรี สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นในหรือเขตใต้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางจะเป็นผู้ดูแล ส่วนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1-9 และ ศชต.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจได้จัดชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุประจำสถานีตำรวจภูธรเมืองของทุกจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งจะช่วยให้การทำงานด้านการตรวจสถานที่เกิดเหตุและการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น “เรื่องการทำงานตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์มีความสำคัญต่อสังคมและประเทศชาติอย่างมาก การปฏิรูปงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ตำรวจนั้นมีหลายองค์ประกอบ โครงสร้างใหม่จะขยายการดำเนินการออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อความเป็นมาตรฐานด้านการประสานงานกับทีมแพทย์นิติเวช ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ตามข้อเท็จจริงแล้ว ชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุประจำโรงพัก ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐานจะต้องมีประจำการอยู่ในทุกโรงพักทั่วประเทศ แต่ด้วยเหตุที่ปัจจุบันตามโรงพักต่างๆ ยังไม่มีสถานที่ทำงานให้เจ้าหน้าที่อย่างเพียงพอ ประกอบกับบุคลากรที่จะทำหน้าที่หัวหน้าชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุก็ยังขาดแคลน อย่างไรก็ตามสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้แก้ไขปัญหาด้วยการขออนุมัติอัตราหัวหน้าชุดตรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว รวมถึงกำลังพิจารณางบประมาณมาซื้ออุปกรณ์ให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วย คาดว่า วันที่ 1 ต.ค.นี้จะทราบผลชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว” รอง ผบ.ตร.กล่าวส่งท้าย