ต้องพิจารณาข้อกฎหมาย ระบุเปลี่ยนรูปแบบพื้นที่ต้องผ่านคณะกรรมการเกาะรัตนโกสินทร์ฯก่อน ชี้ไม่ใช่ชุมชนโบราณ ยันเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ อีก 38 หลังธ.ค.นี้ต้องรื้อย้าย ย้ำอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่-บ้านโบราณ 4 หลัง ทำแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯกทม.เปิดเผยแนวทางพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์บริเวณป้อมมหากาฬ กรณีชุมชนยื่นข้อเรียกร้องขอแบ่งปันที่ดิน โดยขอเช่าที่ดิน 1 ไร่ เพื่ออยู่อาศัยในสวนฯ ซึ่งเห็นว่าหากจะพิจารณารับฟังข้อเสนออย่างน้อยต้องพิจารณาข้อเท็จจริงข้อกฎหมาย จึงควรให้หน่วยงานระดับรัฐบาลพิจารณา ส่วนการจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบในพื้นที่ควรได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโครงการกรุงรัตนโกสินทร์ก่อน อีกทั้งรูปแบบ “ชุมชนกับสวนสาธารณะ” ไม่อาจถือเป็นบทสรุปได้ชัดเจนว่าหากยอมตามข้อเสนอจะเกิดผลดีต่อส่วนรวม ทั้งนี้ ชุมชนป้อมมหากาฬไม่อาจถือได้ว่าเป็นชุมชนโบราณและหรือมีลักษณะพิเศษเฉพาะของชุมชน เช่นชุมชนโบราณอื่นๆ คนในชุมชนก็ไม่ใช่ทายาทหรือผู้เกี่ยวข้องกับเจ้าของที่ดินเดิมสืบเชื้อสายกันลงมา รองผู้ว่าฯกล่าวว่า กทม.ยังคงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ต่อไป โดยจะเข้าเจรจาขอความร่วมมือให้รื้อย้ายบ้านอีก 38 หลังที่เหลือให้เสร็จสิ้นในธ.ค.นี้ ซึ่งกทม.จะรักษาต้นไม้ใหญ่ อนุรักษ์บ้านไม้โบราณ 4 หลัง เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เกาะรัตนโกสินทร์ในอดีต ตลอดจนขุดค้นข้อมูลประวัติศาสตร์ของพื้นที่โดยรอบ