จากกรณีตำรวจท่องเที่ยวเข้าตรวจค้นหาหลักฐานแหล่งปลอมพาสปอร์ตข้ามชาติภายในอาคารพาณิชย์ ย่านพระโขนง กรุงเทพฯ พบนายปีเตอร์ วิลเลี่ยม จอห์นสัน อายุ 63 ปี ชาวอเมริกัน พร้อมนายอารอน โทมัส กาเบล อายุ 33 ปี และนายเจมส์ ดักกลาส อีเกอร์ อายุ 66 ปี พรรคพวกสันญชาติเดียวกัน พร้อมแม่บ้านและสามีชาวเมียนมาอยู่ภายใน ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นนายปีเตอร์ได้ฉวยโอกาสหยิบอาวุธปืนกล็อก จากตู้เซฟออกมายิงใส่ จ.ส.ต.กัญจนพงษ์ เชเดช ผบ.หมู่ งานสืบสวน กก.1 บก.ทท.จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนรีบนำตัวส่งรพ.แพทย์ช่วยเหลือจนอาการปลอดภัย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดอุปกรณ์ผลิตพาสปอร์ตปลอม อาวุธปืน 3 กระบอก ยาไอซ์ ยาเค กัญชา จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบศพชายชาวต่างชาติผมสีทอง ถูกฆ่าหั่นแบ่งชิ้นส่วนซุกซ่อนไว้ในตู้แช่ชั้นล่าง ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายหน่วยงานร่วมกันคลี่คลายคดีนี้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ก.ย. ที่สน.พระโขนง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหาถาวร ผบช.น. เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจากหลายหน่วยงานเข้าประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าในการเร่งคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผบก.พฐ.พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น. กก.สส.บก.น.5 สน.พระโขนง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กองปราบปราม บก.ปอท. สตม. สันติบาล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และนิติเวชจาก รพ.จุฬาฯ เข้าร่วมประชุมโดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง 30 นาที พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวก่อนประชุมว่า เรียกประชุมเพื่อติดตามผลในประเด็นต่างๆที่ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานทั้งหมดไปทำเพื่อเร่งรัดในการคลี่คลายคดีนี้ โดยเริ่มจากการเร่งรัดพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของศพชายต่างชาติว่าเป็นใคร สัญชาติใด รวมทั้งหาสาเหตุการตายว่าตายอย่างไร ตายเมื่อไหร่ ตายที่ไหน อาจจะเกิดจากการป่วยตายก่อนแล้วถูกหั่นศพออกเป็นชิ้นส่วน หรือถูกผู้อื่นฆ่าตายก่อนหั่นศพ ซึ่งสองประเด็นนี้ความผิดก็จะต่างกันไป เบื้องต้นสอบถามแพทย์แล้วทราบว่า การที่ศพถูกแช่แข็งแบบนี้นั้น พิสูจน์ระยะเวลาได้ยาก แต่หากทราบระยะเวลาของการเสียชีวิตได้ก็เช่นเสียชีวิตมาไม่นาน ก็จะไล่ตัวกลุ่มบุคคลต้องสงสัยได้แคบลง แต่หากตายนานแล้วก็จะตรวจสอบยากขึ้น รวมทั้งรู้ตัวว่าผู้ตายเป็นใครก็จะสามารถเชื่อมโยงไปยังประเด็นอื่นที่ตั้งไว้ได้ แต่ขณะนี้ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ชันสูตรศพทางนิติวิทยาศาสตร์อยู่ ซึ่งในส่วนของลายนิ้วมือศพที่ส่งไปแล้วแต่ยังไม่เพียงพอต้องหาเพิ่มเติม เชื่อว่าคดีนี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไร เพียงแต่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ก่อน พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา พ.ร.บ.ยาเสพติด พ.ร.บ.อาวุธปืน นั้น ก็ดำเนินคดีไปตามปกติ นอกจากนี้ยังให้ทำการตรวจสอบข้อมูลเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน เอกสารทั้งหมดที่พบ อุปกรณ์ สารเคมีที่พบในบ้านที่เกิดเหตุในซอยสุขุมวิท 56 และบ้านเช่าในซอยเอกมัย 12 ที่ผู้ต้องหาเคยเข้าไปเช่าอยู่ สำหรับลายนิ้วมือที่ลูกกุญแจกับตู้แช่จะสอดคล้องกันหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบอยู่เช่นกัน รวมทั้งการตรวจสอบพาสปอร์ตทั้งหมดที่พบในที่เกิดเหตุที่มีการสวมหน้าของผู้ต้องหานั้น อยู่ระหว่างประสานทางสถานฑูตนำไปตรวจสอบ ด้าน พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้รับรายงานผลการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนศพที่พบในตู้แช่ ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลของผู้ตายได้ว่าเป็นใคร สัญชาติใด ทั้งนี้ได้ประสานกับทางบช.สตม.ให้ตรวจสอบพาสปอร์ตของผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้เสียชีวิตมีสัญชาติฝรั่งเศสนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากจะต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่ชัดเจนเสียก่อน รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายปีเตอร์ นั้นพบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนานเกิน 5 ปี และน่าจะเป็นตัวการหลักในการทำหนังสือเดินทางปลอม ส่วนอาคารพานิชย์ซอยสุขุมวิท 56 นั้นนายเจมส์ ดักกลาส อีเกอร์ เป็นผู้ทำสัญญาเช่าไว้ตั้งแต่เดือนส.ค.58 โดยแจ้งต่อเจ้าของอาคารว่าจะใช้เป็นสถานที่ทำธุรกิจ มีการจ่ายเงินค่าเช่า 2 เดือน แรก 45,000 บาท หลังจากนั้นลดลงไปเหลือ 25,000 บาท ขณะเดียวกันสารเคมีที่พบนั้น มีหลายชนิดนับเป็นร้อยขวด จากการสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญทางเคมี จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ พบว่ามีการใช้ทำแบตเตอรี่จริง แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าใช้ในการปลอมแปลงพสปอร์ตด้วยวิธีการผ่าเล่ม บางรายการเป็นสารต้องห้ามซื้อขายในประเทศไทย แต่มีเอกสารหลักฐานว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้สั่งซื้อมาใช้ มีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เตรียมขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านเช่าในซอยเอกมัย 12 ใน (เวลา 09.00 น.วันที่ 26 ก.ย.) เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากพยานยืนยันตรงกันทุกปากว่า ตู้แช่ที่พบศพนั้นถูกเคลื่อนย้ายมาจากบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าทำการตรวจสอบภายในบ้านอย่างละเอียดว่าในทุกจุดว่าจะพบหลักฐานการฆ่าหั่นศพภายในบ้านหรือไม่ มีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ตู้แช่รุ่นดังกล่าวที่พบภายในบ้านที่เกิดเหตุผลิตโดยบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี (บริษัทซันเด้น อินเตอร์คูล (ประเทศไทย) จำกัด) มีโรงงานผลิตอยู่ที่ จ.สิงห์บุรี แต่ได้เลิกผลิตมานานแล้ว จึงเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาอาจจะซื้อตู้แช่มือ 2 มาใช้ทำการ โดยเตรียมสอบปากคำรายละเอียดของตู้แช่ดังกล่าวจากบริษัทผู้ผลิต นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบหาจุดซื้อขายตู้แช่ในรัศมี 10 กิโลเมตร จากอาคารที่เกิดเหตุ ทั้งสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ พระราม 4 ประเสริฐมนูกิจ ว่าจะมีการซื้อขายจากจุดใด และกลุ่มผู้ต้องหาซื้อไปเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องการติดตามตัวผู้ตายนั้น มีรายงานว่า ศพของผู้ตายมีลักษณะฟันเหยิน และจากการตรวจค้นภายในบ้านที่เกิดเหตุก็พบรูปชายชาวต่างชาติรายหนึ่ง ลักษณะตัวสูง ฟันเหยิน เช่นกัน อยู่ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า บุคคลภายในภาพดังกล่าวนั้นเป็นใคร มีความเชื่อมโยงอย่างไรกับกลุ่มผู้ต้องหา รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับการสอบปากคำนายปีเตอร์นั้น ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบปากคำอย่างละเอียด ได้แต่สอบถามในเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากแพทย์แจ้งว่า ผู้ต้องหายังได้รับบาดเจ็บอยู่ ต้องรอให้แพทย์อนุญาตเสียก่อนจึงจะดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลเป็นภาพถ่ายที่นายปีเตอร์ถ่ายคู่หญิงไทยรายหนึ่งไว้ กำลังติดตามตัวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายปีเตอร์อย่างไรบ้าง มีรายงานด้วยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว กำลังตรวจสอบข้อมูลของกลุ่มแก๊งผู้ต้องหาปลอมแปลงพาสปอร์ตที่สามารถจับกุมได้ย้อนหลังกลับไป 2-3 ปี โดยเฉพาะกลุ่มผู้ต้องหาชาวยุโรปที่สามารถจับกุมได้ ว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 3 คนหรือไม่ รวมทั้งจะลงพื้นที่ตรวจสอบตามแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ข้าวสาร สีลม ซอยคาวบอย เพื่อหาข้อมูลขยายผลไปว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยมาเที่ยวในที่ใด และรู้จักกับบุคคลใดเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วนทาง บก.ปอท. ได้ทำการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ที่สามารถยึดได้จากผู้ต้องหา ซึ่งอยู่ระหว่างการดึงข้อมูลออกมามาตรวจสอบว่า กลุ่มผู้ต้องหาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำอะไรบ้าง และโทรศัพท์ติดต่อใครบ้าง