เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมืองผบก. ปอศ. พ.ต.อ.พุฑฒิพงศ์ มุสิกูล รอง ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผกก.5 บก.ปอศ. พ.ต.ท.เสฏฐพัฒน์ ศิริวงศ์ สว.กก.5 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายนพดล จีระไพโรจน์กุล อายุ 52 ปี ชาว จ.สระบุรี พร้อมของกลาง บัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ รหัสกดเงิน 4 หลักของผู้กู้ 508 ใบ สมุดบัญชีเงินฝากผู้กู้ 388 เล่ม และเอกสารเกี่ยวผู้กู้หลายรายการ อาทิ บัตรประชาชน บัตรประกันสังคม และประวัติผู้กู้ จับกุมบ้านพักเลขที่ 75 ซอยอ่อนนุช62 แขวงเขตสวนหลวง กทม. พล.ต.ต.สมหมาย เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปอศ. สืบทราบว่า นายนพดล ปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยคิดดอกเบี้ยร้อยละ 10บาทต่อเดือน มีการทำสัญญาเงินกู้ พร้อมยึดบัตรเอทีเอ็ม เอกสารประจำตัวต่างๆของผู้กู้เอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นศาลพระโขนง พบนายนพดล อยู่ในบ้านดังกล่าวจึงแสดงหมายค้น ก่อนตรวจสอบในบ้านพัก พบของกลางหลายรายการ จึงตรวจยึดไว้และควบคุมตัวมาที่ บก.ปอศ. จากการสอบปากคำ นายนพดล ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ โดยมีการยอมรับสารภาพเพียงว่าตนเองเริ่มการปล่อยกู้ในช่วงปี 2540 โดยนำเงินมาจากครอบครัวที่ทำธุระกิจจัดสรรที่ดินตั้งแต่ ปี 2530 ซึ่งลูกค้าจะเป็นพนักงานตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีการแนะนำแบบปากต่อปาก ทุกคนจะรู้กันว่าหากต้องการเงินกู้ให้มาติดต่อที่บ้านของตน ในซอยอ่อนนุช 62 ซึ่งเปิดเป็นสำนักงานปล่อยเงินกู้ กระทั่งช่วงปี 2551 ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล จับกุมในข้อหาปล่อยเงินกู้เรียกรับดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด และถูกส่งดำเนินคดีศาลจังหวัดพระโขนง รับโทษโดยการถูกคุมประพฤติ เสียค่าปรับ และรอลงอาญา 2 ปี และก็หยุดปล่อยเงินกู้นอกระบบมาตั้งแต่หลังคดีสิ้นสุด แต่ตนเองยังเก็บเอกสารลูกหนี้ที่ยังค้างชำระไว้ เพื่อติดตามตัวมาชำระเงินต้นคืน โดยเจ้าหน้าที่พบว่ามีการจดบันทึกรายรับชำระหนี้สินในช่วงปี 2556 ถึง 2558 ตลอดมา นอกจากนี้ยังพบว่ามีการปล่อยเงินกู้ในช่วงปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดพบหลักฐานว่ามีการดำเนินการถอนเงินจากบัตรของลูกหนี้ในช่วงวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา และรายอื่นในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เบื้องต้นแจ้งข้อหา "ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต" "เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด" และ"มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด" นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป