ช่วงนี้การแก้ไขปัญหา “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” กลายเป็นเรื่องสำคัญอีกวาระหนึ่ งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกขึ้นมาขอความร่วมมือกั บทุกภาคส่วนให้ช่วยลงมือกำจั ดให้หมดสิ้นอย่างจริงจัง ทั้งที่จริงๆ แล้วทัวร์ศูนย์เหรียญ เป็นมะเร็งเรื้อรังคอยบั่นทอนทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยมาอย่างยาวนานนับสิบปี... คำว่า “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” เป็นชื่อเรียกวงจรอุบาทว์ของกลุ่มนักลงทุนด้านการท่องเที่ยวชาวจีนและชาวไทย ที่จับมือกันสร้างเครือข่ายขึ้นมาหลอกลวงเหยื่อชาวจีน ผู้มีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาวัฒนธรรม ดื่มด่ำกับรสชาติอาหาร และจับจ่ายสินค้าราคาถูกในเมืองไทย วิธีดำเนินงานเริ่มจากการที่ผู้ ประกอบการทัวร์ของประเทศจีน จะจัดหาเครื่องบินเช่าเหมาลำราคาถูก ก่อนปล่อยแพคเก็จตั๋วโดยสารทั้งไปและกลับ รวมค่าที่พัก ร้านอาหาร และค่าพาท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ในราคารวมกันชนิดที่เรียกว่าต่ำกว่าทุน เพื่อล่อใจนักท่องเที่ยวชาวจีนให้แห่กันมาตะครุบ ทว่าเมื่อพาเหยื่อเดินทางมาถึงแผ่นดินไทย ก็จะปล่อยให้บริษัททัวร์กับไกด์เถื่อนในประเทศไทยรับช่วงดูแลต่อตลอดทริป ซึ่งวิธีการที่กลุ่มกิจการทัวร์ ศูนย์เหรียญในไทยทำกันมาช้านานนั้น คือจะยอมจ่ายเงินค่าหัวนักท่องเที่ยวแต่ละกรุ๊ปให้กับผู้ ประกอบการทัวร์ของจีนเป็นการตอบแทน จากนั้นจะยึดหนังสือเดินทางของลูกทัวร์พาตะลอนไปกับรถโดยสาร แวะโรงแรมที่พักร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายเครื่องประดับ ขายยาบำรุง ขายของที่ระลึก ซึ่งได้มีการทำสัญญาผูกขาดแบ่งเปอร์เซ็นต์กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยค่าใช้จ่ายที่นักท่องเที่ยวต้องควักกระเป๋าซื้อสินค้าทั้งเครื่องอุปโภคและบริโภคตามร้านรวงเหล่านั้นหาได้เป็นราคาที่ ถูกต้องยุติธรรมตามมาตรฐานที่ ควรจะเป็น ซ้ำร้ายเมื่อมีการซื้อค่าหัวนักท่องเที่ยวกันมาตั้งแต่ ลงจากเครื่องบิน ทั้งบริษัทและไกด์เถื่อนที่คอยเชือดหมูอยู่ในประเทศไทย ก็จำเป็นต้องยัดเยียดโปรโมชั่นเสริมด้วยการพากรุ๊ปทัวร์ไปเที่ยวตามสถานบันเทิง ที่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านประเภทโชว์เนื้อหนังมังสา แก้ผ้ากระทำอนาจาร โดยบังคับเรียกเก็บเงินเพิ่มต่อหัวในราคาสูงเพื่อทำกำไรต่อกรุ๊ปให้ได้มากที่สุด เหยื่อมักไม่กล้าขัดขืนต่อต้านอะไรทั้งที่รู้ว่าเป็นการเสียเงินภาคบังคับ แต่ด้วยเพราะถูกยึดหนังสือเดินทางไว้ ประกอบกับเมื่อตกล่องปล่องชิ้นมาถึงเมืองไทยแล้วไม่รู้ช่องทางว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ทว่าบ่อยครั้งก็มีเหตุการณ์ปล่อยลอยแพ ข่มขู่ และทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดขึ้นเช่นกัน หากกรุ๊ปไหนไม่ยอมจ่ายเงินเพิ่มให้กับบริษัทและไกด์เถื่อนเหล่านี้ เรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นส่งผลร้ายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทยมานานแสนนาน ยิ่งในระยะหลังมีกลุ่มประกอบกิจการท่องเที่ยวจากจีน เข้ามาถือหุ้นกับบริษัททัวร์ ในประเทศไทย หนำซ้ำนักธุรกิจจีนบางรายยังถือโอกาสเข้ามาว่าจ้างคนไทยเป็นนอมินีเจ้าของบริษัท ยิ่งแสดงให้เห็นเด่นชัดว่า เมืองไทยกำลังจะเป็นแค่สถานที่ ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนมาสูบเอาทรัพยากรออกไป แต่เม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ได้ จากการวางแผนหลอกลวงเหยื่อมาจากต้นทาง มันก็กำลังจะไหลย้อนกลับไปยังต้นทางคือประเทศจีนด้วยเช่นกัน... เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังเข้าสู่ขั้นวิกฤติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงรีบสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทั้ง ตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว กรมการพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการขนส่งทางบก กรมสรรพากร ช่วยกันสกัดกั้นมอมินีต่างชาติ ที่เป็นเครือข่ายทัวร์ศูนย์เหรี ยญในประเทศ รวมทั้งถือโอกาสจัดระเบียบอุ ตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้มีคุณภาพตามยุ ทธศาสตร์ที่รัฐบาลวางเอาไว้ กระทั่งตำรวจท่องเที่ยวพบเบาะแสเครือข่ายนักธุรกิจทัวร์ศูนย์เหรียญจากประเทศจีน เข้ามาสวมรอยโดยสวมชื่อในบัตรประชาชนคนไทยที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อดำเนินกิจการทัวร์ ภายในประเทศไทย ภายใต้ชื่อบริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด โดยทั้งสองบริษัทนี้มี มี นางถวัล แจ่มโชคชัย และ นายสมเกียรติ คงเจริญ ชาวจีนที่ลักลอบสวมบัตรประชาชนของ นายสมเกียรติ คงเจริญ คนไทยซึ่งเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2550 เป็นกรรมการผู้ถือหุ้น ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับทั้งคู่ในความผิดฐานเป็นสมาชิกอั้งยี่ และร่วมกันประกอบธุรกิจนำเที่ยวกระทำการอันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยว จากการสอบสวนขยายผลยังพบว่า บริษัท ฝูอัน ทราเวล จำกัด และ บริษัท ซินหยวน ทราเวล จำกัด ใช้บริการรถบัสโดยสารของบริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารถบัสโดยสาร แต่มีข้อตกลงและเงื่อนไขจะต้องพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้ าตามร้านหรือสถานที่ตามที่บริษั ท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด กำหนดไว้ 4 แห่ง คือ 1.บริษัท รอยัล เจมส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 2.บริษัทรอยัล พาราไดซ์ จำกัด 3.บริษัท รอยัล ไทย เฮิร์บ จำกัด 4.บริษัท บางกอก แฮนดิคราฟท์ เซ็นเตอร์ จำกัด โดยระหว่างดูแลกรุ๊ปทัวร์จะมี ไกด์เถื่อนใช้วิธีบังคับล่อลวง ขู่เข็ญนักท่องเที่ยว ให้ซื้อสินค้าในราคาสูงเกินจริง หนำซ้ำยังมีการขูดรีดให้เสียเงินค่าพาไปเที่ยวตามสถานบันเทิงที่ อยู่นอกเหนือจากโปรโมชั่นในแพคเก็จ จนเป็นที่มาของการนำกำลังตำรวจเข้าตรวจสอบ บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งมี นายวสุรัตน์ โรจน์รุ่งรังสี อายุ 26 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ และบริษัท รอยัลพาราไดซ์ จำกัด ซึ่งมี นางนิสา โรจน์รุ่งรังสี อายุ 61 ปี มารดานายวสุรัตน์ เป็นกรรมการผู้จัดการ นอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นบริษัทเครือข่ายอีกทั้งสิ้น 3 แห่ง เบื้องต้นสองแม่ลูกถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำผิด พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ จัดทัวร์ศูนย์เหรียญ ขายสินค้าแพง สร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และฟอกเงิน ขณะที่พนักงานสอบสวนก็ได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวต่อศาลด้วย เนื่องจากพบข้อมูลผู้ต้องหาทั้งสองเกี่ยวพันกับขบวนการนำนักท่องเที่ยวศูนย์เหรียญจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทยนับล้านคน โดยมีรถทัวร์ให้บริการมากถึง 2,000 คัน มีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ดำเนินการลักษณะปกปิด มีอิทธิพลเหนือผู้ประกอบการรายอื่น พฤติการณ์ขูดรีดขายสินค้าราคาแพง และห้ามผู้ประกอบรายอื่นขายสินค้าชนิดเดียวกันกับผู้ต้องหา ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยได้รับความเสียหาย อีกทั้งสำนักงานป้องกันและปราบการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ยึดอายัดทรัพย์สินในเครือของผู้ต้องหานับหมื่นล้านบาท โดยพยานบุคคลยังเกิดความเกรงกลัวไม่กล้าหรือหลบเลี่ยง ไม่มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ดังนั้นหากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาทั้งสองจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานจนเสียหายต่อรูปคดี อีกทั้งคดีมีอัตราโทษสูงจึงกลัวว่าจะหลบหนีศาลจึงไม่อนุญาตให้ ประกันตัว นายสามารถ รัตนประทีปพร อดีต ส.ว.หนองบัวลำภู และอดีตประธานอนุกรรมาธิการด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ สินของนักท่องเที่ยว กล่าวว่า “ที่ผ่านมาสมัยทำงานด้านนี้เมื่อปี 2543-2549 พบปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญเกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากได้รับเรื่องร้องทุกข์ จากนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามามาก โดยเฉพาะประเด็นถูกไกด์ขูดรีดบังคับให้ซื้อสินค้าราคาแพงกว่าความเป็นจริง หนักที่สุดถึงขั้นถูกไกด์ นำไปปล่อยลอยแพบนทางด่วนกลางวันแสกๆ ตนมองว่าการที่รัฐบาลก่อนๆ ไม่สามารถแก้ไขได้เพราะไม่เข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง ไม่มีความจริงจังกับการแก้ไขปั ญหา นายสามารถ รัตนประทีปพร ผิดกับรัฐบาลของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เล็งเห็นว่าปัญหาทัวร์ศูนย์ เหรียญเริ่มขยายวงกว้าง และกลุ่มผู้ประกอบกิจการทัวร์ศู นย์เหรียญเริ่มเติบโตขึ้นจนน่ ากลัว จึงมีการกำหนดคณะทำงานที่รู้ปั ญหาจริงมีประสบการณ์มาวางโจทย์ ให้บูรณาการร่วมกันตีโจทย์จนแตก ทั้งนี้เพราะรัฐบาลก็มีอำนาจ คือ ใช้ ม.44 เป็นเครื่องมือปฏิรูปในเรื่องที่ ถูกที่ควร แม้จะมีการตั้งข้อสังเกตกันว่ าเมื่อปราบทัวร์ศูนย์เหรียญแล้ วจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิ จบางชนิดในช่วงนี้ แต่ตนมั่นใจว่าระยะยาวการท่ องเที่ยวของประเทศไทยจะดีขึ้ นกว่าเดิมอย่างแน่นอน” นายบัณฑิต ศิริตันหยง รองประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีน ให้ความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินมาถูกทางแล้ว อย่างที่ทราบปัญหาทัวร์ศูนย์ เหรียญเป็นเรื่องน่าปวดหัวมานานไม่เคยมีรัฐบาลไหนปราบปรามได้อย่างจริงจัง นานเกือบสิบปีที่คนจีนซึ่งเคยถูกหลอกเข้ามาเที่ยวและกลับไปตะโกนด่าเรา แต่เราทำเป็นไม่ได้ยิน อันที่จริงนักท่องเที่ยวกลุ่มนั้นเพียงเห็นว่าบริษัทเสนอแพคเก็จราคาถูกมาล่อใจจึงกระโดดใส่ และพากันเป็นเหยื่อมาโดนหลอก นายบัณฑิต ศิริตันหยง นักท่องเที่ยวเหล่านี้เมื่อเดินทางเข้ามาแล้วก็จะถูกบังคับซื้อสินค้า อาทิ ยาหม่อง กล่องละ 280 บาท ทั้งที่ต้นทุนเพียง 20 บาท หมอนใบละ 4,800 บาท ทั้งที่ต้นทุนเพียงใบละ 450 บาท กำไรส่วนที่เหลือก็จะแบ่งสันปันส่วนกันเฉพาะคนกลุ่มเล็กๆ คือพวกไกด์และบริษัททัวร์ที่ แสวงหาผลประโยชน์ จากการหลอกลวงนักท่องเที่ยว เม็ดเงินไม่ได้กระจายไปถึงชาวบ้าน และภาคธุรกิจ Sme อย่างที่ควรจะเป็น เวลานี้ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้นที่มีนโยบายกวาดล้างทัวร์ ศูนย์เหรียญ ล่าสุดผมเช็คไปทางจีนเขาก็ ระดมจับบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญไปแล้วกว่า 20 บริษัท เพราะทางลูกค้าจองแพคเก็จแล้วไม่สามารถเดินทางมาเที่ยวไทยได้เนื่องจากติดปัญหาทางการไทยกวาดล้างก็เลยไปร้องทุกข์กับทางรัฐบาลจีนจนเป็นที่มาของการกวาดล้างตามนโยบายร่วมกัน หลังจากนี้ต้องยอมรับภาคธุรกิจไทยที่ให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนอาจเหนื่อยขึ้น แต่เพื่อความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่ งยืนเราจะตั้งเป้าไปที่ปริมาณไม่ได้แล้ว อยากให้มุ่งเน้นไปที่คุณภาพทั้งตัวนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา และคุณภาพการบริการของภาคธุรกิจที่ให้บริการนักท่องเที่ยวทุกชนิดต้องปรับตัวแข่งขันกันให้ มีบริการที่ดี เพื่อนำรายได้มากระจายสู่พ่อค้า แม่ค้า ชาวบ้าน อีกทั้งนำมากระตุ้นภาคธุรกิ จโดยรวมของประเทศให้ได้อย่างแท้จริง นับเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ ของการทลายเครือข่ายทัวร์ศูนย์ ในไทยที่รัฐบาลไหนๆ ก็ไม่เคยทำได้มาก่อน...