วันที่ 29 มิ.ย.65 เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรครวมพลังประชาติไทย หรือ รปช. โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ - Katerut Laothamatas ระบุว่า...

สังคมเข้าสู่การไถ่ถอนอำนาจนิยม?

เราพึงต้องแยกให้ออกระหว่างคำว่า “อำนาจนิยม” และประเพณีที่งดงามที่พวกเราพึงกระทำมาตลอด นโยบายของมหาวิทยาลัยที่พึ่งกระทำมาโดยผ่านองค์กรนักศึกษา และอนุมัติโดยผู้บริหารมหาวิทยาลัยนั้นคือความชอบธรรม และสิทธิเสรีภาพที่กระทำได้ถ้าการกระทำนั้นมิได้ผิดต่อกฎหมาย

ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมถ้าจะให้นักศึกษาลงไปหมอบกราบอาจารย์ แต่ตัวของอาจารย์นั้นมิได้ต้องการเช่นนั้นให้ลดลงเหลือเพียงแค่การไหว้ก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ภายใต้กรอบของกฎหมายและการตกลงร่วมกัน

แต่ฉันใดก็ฉันนั้นความคิดเห็นของสังคมประชาธิปไตยนั้นแตกออกเป็นหลายรูปแบบ ความแน่นอนที่สุดย่อมมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยตามปกติ

ในครั้งนี้เมื่อมีกระแสออกมาว่าสังคมนั้นไม่เห็นด้วยที่เราจะละทิ้งไว้ซึ่งประเพณีอันสวยงามผู้บริหารและองค์กรนักศึกษาก็ต้องยอมรับในคำวิจารณ์ และข้อติติงของสังคม

แต่ผมเองไม่อยากให้ทุกท่านด่วนสรุปว่าการยกเลิกการหมอบกราบนี้คือจะถูกดันให้ไปถึงไหนเพราะในตัวของมหาวิทยาลัยเองยังคงไว้ซึ่งคำว่าไหว้ คำๆนี้ยังคงดำรงไว้ซึ่งประเพณีของความนอบน้อม ความเคารพของความสัมผัสของครูและศิษย์ที่ยังมีเปรียบเสมือนคำพูดที่เราคุ้นหูคุ้นตากัน

“ครู(อาจารย์) นั้นไม่ใช่แค่เรือจ้าง”

ยุคสมัยเปลี่ยนการเวลาเปลี่ยนสิ่งที่ตามมาคือการเปลี่ยนแปลง แต่วันหนึ่งถ้าเราไม่คิดที่จะรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่เคารพซึ่งกันและกันก็ถือว่าน่าเสียดายที่วัฒนธรรมอันสวยงามและดีงามจะหายไปจากสังคมไทย

เพราะมันไม่ใช่เรื่องของกฏหมาย

แต่เป็นเรื่องของใจและค่านิยม

“แก่นแท้ของสังคมไทยไม่ใช่เรื่องของอำนาจนิยมที่มีกลุ่มคนปลุกปั่นขึ้นมา แต่คือการเคารพเเละให้เกียรติซึ่งกันและกันตามหน้าที่ของแต่ละท่านในสังคม การไหว้ การให้ความเคารพ การสำนึกในคุณงามความดีของผู้มีพระคุณต่างหากที่คือหัวใจของวัฒนธรรมไทย นี้คือความสวยงามและงดงามของความเป็นไทยที่จะนำพานักท่องเที่ยวเเละชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพราะเอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่ไม่เหมือนใครนี้แหละครับ”