วันที่ 9 ก.ค.65 เว็ปไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ  กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) สำหรับสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565  ลงนามโดย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยสาระสำคัญสรุปดังนี้
 

โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงประกาศว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรคโควิด-19 สำหรับสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ให้เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง เพื่อให้สถานประกอบกิจการ และผู้ดำเนินกิจการปฏิบัติตามหลักกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะ ป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ได้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 แห่งกฎกระทรวงควบคุมสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข จึงได้ออกประกาศไว้ โดยประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป พร้อมกับให้ยกเลิกประกาศ
กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการการป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 (Coronavirus Disease 2019 (COVID-19) สำหรับสถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2564

ทั้งนี้ ข้อ 5 ในประกาศ ได้ระบุไว้ว่า ผู้ดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และมาตรการด้านสุขลักษณะ ป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัส ดังต่อไปนี้

(1) จัดให้มีการทำความสะอาดอาคารสถานประกอบกิจการ พื้น ผนัง ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณพื้นผิวที่มีการสัมผัสบ่อยหรือสัมผัสร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มกดลิฟต์โดยสาร เก้าอี้ โต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร ห้องน้ำและห้องส้วม ต้องดูแลความสะอาดให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะเป็นประจำทุกวัน

กรณีสถานประกอบกิจการตามข้อ 3 กิจการกลุ่ม 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องทำความสะอาดสถานที่ให้บริการอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วม หรือจุดเสี่ยงมากขึ้น ตามปริมาณของผู้เข้ามาใช้บริการด้วย

(2) จัดให้มีการทำความสะอาด เครื่องมือ เครื่องใช้ ภาชนะ อุปกรณ์และเครื่องจักรเกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการประกอบกิจการที่มีการสัมผัสบ่อย หรือสัมผัสร่วมกัน ก่อนและหลังประกอบกิจการ หรือให้บริการทุกครั้ง

(3) จัดให้มีอ่างล้างมือพร้อมน้ำและสบู่อย่างเพียงพอ หรือจัดให้มีเจลแอลกอฮอล์หรือแอลกอฮอล์เข้มข้นไม่น้อยกว่า 70% วางไว้ในจุดที่สามารถใช้ได้อย่างสะดวกและเพียงพอ

(4) จัดให้มีมาตรการเว้นระยะห่างในพื้นที่ปฏิบัติงานและพื้นที่ให้บริการอย่างเหมาะสม หรือมีมาตรการป้องกันรูปแบบอื่นตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ราชการกำหนด

กรณีสถานประกอบการตามข้อ 3 กิจการกลุ่ม 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องมีมาตรการกำกับดูแลการให้บริการ ไม่ให้หนาแน่น หรือแออัด จนอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือเกิดการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสด้วย

(5) จัดให้มีระบบระบายอากาศในอาคารที่ดีและเพียงพอโดยวิธีธรรมชาติหรือโดยวิธีกลก็ได้ โดยอัตราการระบายอากาศต้องเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง และต้องดูแล ตรวจสอบ บำรุงรักษาระบบปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอให้อยู่ในสภาพดี และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กรณีสถานประกอบกิจการตามข้อ 3 กิจการกลุ่ม 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากมีผู้เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ต้องเพิ่มการระบายอากาศเพื่อแลกเปลี่ยนอากาศ เช่น ติดตั้งพัดลมดูดอากาศ เปิดประตูหน้าต่างเป็นระยะ หรือวิธีการอื่นใดเพื่อระบายอากาศ และห้องส้วมให้เปิดพัดลมดูดอากาศออกตลอดเวลาการใช้งานด้วย

(6) จัดให้มีภาชนะบรรจุ หรือภาชนะรองรับที่เหมาะสมและเพียงพอกับประเภทและปริมาณของมูลฝอย โดยจัดเก็บใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้มิดชิด นำไปกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ และทำความสะอาดภาชนะบรรจุ หรือภาชนะรองรับและบริเวณที่ตั้งภาชนะนั้นอย่างสม่ำเสมอ

(7) จัดให้มีอุปกรณ์ทำความสะอาด น้ำยาทำความสะอาด สารฆ่าเชื้อ อย่างเพียงพอ และมีอุปกรณ์ป้องกันตนเองสำหรับพนักงานทำความสะอาดที่เหมาะสม เพียงพอ เช่น ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย รองเท้าบูต ที่คีบด้ามยาวสำหรับเก็บมูลฝอยใส่ถุง

(8) กำกับดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานรักษาความสะอาดของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ สวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด และมีสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี

(9) สถานประกอบกิจการที่มีโรงอาหาร สถานที่รับประทานอาหาร หรือมีการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม ต้องจัดบริการที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และจัดให้มีอ่างล้างมือหรือเจลแอลกอฮอล์เข้มข้นไม่น้อยกว่า 70% วางไว้ในจุดที่สามารถใช้ได้อย่างสะดวกและเพียงพอ

(10) กำกับดูแลคัดกรองผู้ปฏิบัติงาน หากพบว่ามีอาการป่วย หรือสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ให้พิจารณาหยุดปฏิบัติงาน และดำเนินการตามข้อ 6 ต่อไป

กรณีสถานประกอบกิจการตามข้อ 3 กิจการกลุ่ม 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องคัดกรองผู้ใช้บริการ หากพบว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะเป็นผู้ติดเชื้อให้งดเข้าใช้บริการด้วย

(11) กำกับดูแล ให้ผู้ปฏิบัติงานสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือชุดปฏิบัติงานที่เหมาะสม หรือสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่เหมาะสมตามลักษณะงาน

กรณีสถานประกอบกิจการตามข้อ 3 กิจการกลุ่ม 9 กิจการที่เกี่ยวกับการบริการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ต้องกำกับ ดูแลผู้มาใช้บริการที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ ให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสถานประกอบกิจการด้วย

 

ข้อ 6 สถานประกอบกิจการและผู้ดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ด้านสุขลักษณะและมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสเพิ่มเติม กรณีพบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสในสถานประกอบกิจการ จนกว่าจะพ้นระยะเวลาการแพร่เชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ดังต่อไปนี้

(1) ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคในบริเวณสถานประกอบกิจการ ที่คาดว่าพบผู้ติดเชื้ออยู่ในสถานประกอบกิจการนั้นทันที โดยอาจพิจารณาหยุดกิจกรรม หรือการให้บริการในแผนกที่มีผู้ปฏิบัติงานนั้นติดเชื้อไวรัส

(2) เพิ่มการดูแลการระบายอากาศในสถานประกอบกิจการ ให้มีการถ่ายเทอากาศบริเวณที่พบผู้ติดเชื้อทันที และปรับปรุงระบบระบายอากาศให้ดียิ่งขึ้น โดยอาจติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม เช่น เครื่องกรองอากาศ หรือพัดลมดูดอากาศให้เพียงพอ และห้องส้วมให้เปิดพัดลมดูดอากาศออกตลอดเวลาการใช้งาน

(3) จัดให้มีระยะห่างระหว่างผู้ปฏิบัติงานในแผนกที่พบผู้ติดเชื้อ และแผนกที่เกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 1 เมตร หรือมีมาตรการอื่นที่เหมาะสม ตามที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขแนะนำ และให้งดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะในช่วงการพักรับประทานอาหารของผู้ปฏิบัติงาน

(4) จัดการมูลฝอยประเภทที่ปนเปื้อนน้ำมูก น้ำลาย สารคัดหลั่ง เช่น หน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู ชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อที่ใช้งานแล้ว ในแผนกที่มีผู้ปฏิบัติงานเป็นผู้ติดเชื้อและบริเวณที่เกี่ยวข้อง โดยจัดที่ทิ้งมูลฝอยติดเชื้อเป็นการเฉพาะ แยกเก็บ รวบรวม และทำลายเชื้อโรค โดยใส่ถุงบรรจุมูลฝอยติดเชื้อที่ทำจากพลาสติกหรือวัสดุอื่นที่มีความเหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย ทนทานต่อสารเคมี และการรับน้ำหนัก กันน้ำได้ ไม่รั่วซึม จำนวน 2 ชั้น ถุงชั้นแรกให้ราดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำยาฟอกขาว จากนั้นมัดปากถุงให้แน่น แล้วซ้อนด้วยถุงแดงสำหรับบรรจุมูลฝอยติดเชื้ออีกหนึ่งชั้น มัดปากถุงให้แน่นอีกครั้ง หากไม่มีถุงแดงต้องมีข้อความ “มูลฝอยติดเชื้อ” ปรากฏบนถุงบรรจุมูลฝอยติดเชื้อ และให้เก็บรวบรวมแยกไว้เฉพาะตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด

 

ข้อ 7 สถานประกอบกิจการใดมีมาตรการป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ เท่ากับหรือมากกว่ามาตรการตามประกาศนี้ ให้ปฏิบัติตามมาตรการนั้นต่อไปได้ และต้องปฏิบัติมาตรการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดด้วย

ข้อ 8 ผู้ดำเนินกิจการต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคตามที่กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกำหนด หรือตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานสาธารณสุข หรือใช้มาตรการอื่นตามที่ราชการกำหนดด้วย

ข้อ 9 ผู้ดำเนินกิจการต้องประเมินตนเองด้านสุขลักษณะ และมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัส ผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัลตามที่กรมอนามัยกำหนดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ก่อนการต่ออายุใบอนุญาต หรือในกรณีที่มีความเสี่ยง เพื่อการเฝ้าระวังความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสและป้องกันมิให้เกิดผลกระทบหรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ