นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีที่มีการแชร์คลิปการเรียนการสอนของนักเรียน โรงเรียนนารีนุกูล 2 ต.หัวเรือ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) เขต 29 ซึ่งนักเรียนต้องใช้โทรศัพท์มือถือส่องแทนไฟฟ้า ครูไม่สามารถพิมพ์งาน พิมพ์เอกสารได้ พร้อมระบุว่าได้รับความเดือดร้อนมากว่า 2 เดือน เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้าของโรงเรียนระเบิดตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ว่า ตนได้สอบถามข้อเท็จจริงไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พบว่า สพม.เขต 29 ได้รายงานเรื่องหม้อแปลงไฟฟ้าของโรงเรียนระเบิดมา และ ทาง สพฐ.ก็ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 โดยได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อดำเนินการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า ขยายเขต และปรับปรุงซ่อมแซมระบบไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าใหม่ทดแทนจนถึงขณะนี้ ดังนั้น ตนจึงสั่งการให้ สพฐ.เร่งรัดให้โรงเรียนดำเนินการให้นักเรียนได้เรียนโดยมีไฟฟ้าภายในสัปดาห์หน้า พร้อมทั้งให้ สพฐ.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีความบกพร่องอยู่ในขั้นตอนใด หากมีการกระทำผิดก็ให้ดำเนินการทางวินัยต่อไป

“ได้กำชับเป็นนโยบายมาโดยตลอด และพูดทุกครั้งที่ลงพื้นที่พบผู้บริหารสถานศึกษาในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ว่า สถานศึกษาต้องพร้อมทั้งด้านความปลอดภัย และคุณภาพในการจัดการศึกษา เราต้องจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนทุกคนได้เรียนอย่างเต็มที่ มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อชดเชยการสูญเสียการเรียนรู้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 กว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ขอย้ำว่าเรื่องการเรียนของนักเรียนเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดของโรงเรียน ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์ใดใดที่กระทบต่อการเรียนรู้ของนักเรียนทางผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษาที่เกี่ยวข้องจะต้องถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดที่จะต้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วน ไม่ใช่ปล่อยให้นักเรียนต้องใช้โทรศัพท์มือถือส่องแทนไฟฟ้า ครูไม่สามารถพิมพ์งาน พิมพ์เอกสารได้ ลำบากทั้งครูและนักเรียน มากว่า 2 เดือนแบบกรณีนี้ ” รมว.ศธ.กล่าว.