วันที่ 6 ต.ค. 59 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน (สยามพารากอน) เพื่อหาตัวคนร้ายที่ลงมือทุบกระจกรถเบนซ์ อี 200 สีขาว ทะเบียน ฆฐ-8388 กรุงเทพมหานคร ของนายอาศิระ ว่องกุลนภาฤทธิ์ อายุ 66 ปี อดีตผู้จัดการฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาลเมืองกาญจนบุรี อยู่บ้านเลขที่ 18 ถนนกรุงธนบุรี แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบกล้องวงจรปิดของห้างสรรพสินค้าสามารถจับภาพของคนร้าย เป็นชาย 3 คน ลักษณะคล้ายแขกขาวกำลังเดินตามผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังกล้องยังสามารถจับภาพหลังก่อเหตุได้อีกว่า คนร้ายได้ขับรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีส้ม ทะเบียน ขม-1720 ชลบุรี หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสน.ปทุมวัน อยู่ระหว่างสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 14 ก.ย. เมื่อนายอาศิระ ว่องกุลนภาฤทธิ์ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.พงศ์พิทูร พาศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน หลังถูกคนร้ายทุบกระจกรถเบนซ์คันดังกล่าว ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไป 1 แสนบาท ก่อนให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับภรรยาขับรถคันดังกล่าวเข้ามาจอดภายในลานจอดชั้นบี 1 ของห้าง ก่อนลงไปซื้อผลไม้กับเพื่อขนมนำไปไหว้พระจันทร์ จากนั้นตนกับภรรยาก็แยกกันไปทำธุระโดยภรรยาลงไปซื้อของที่ชั้นจี ส่วนตนขึ้นลิฟต์ไปร้านแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊ก ชั้น 2 จากนั้นตนก็นำเงินสดที่เตรียมมา จำนวน 1 แสนบาท ซึ่งเป็นธนบัตรฉบับใบละ 1 พันบาททั้งหมด ไปแลกเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท ที่ธนาคารกสิกรไทย ชั้นที่ 3 โดยขณะกำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อนนั้น ตนก็สังเกตเห็นชายชาวต่างชาติ ผิวขาว สวมหมวกแก๊ปเดินตามแบบทิ้งระยะห่าง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะคิดว่าเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป นายอาศิระ ให้การต่อว่า หลังจากแลกเงินจนเสร็จ ภรรยาก็โทรศัพท์มาบอกให้ตนลงไปเอาผลไม้แล้วนำไปเก็บไว้ในรถเนื่องจากต้องต่อแถวรอคิวซื้อขนมเพิ่มเติม ตนจึงถือซองกระดาษสีน้ำตาลที่บรรจุเงินทั้งหมดไปหาภรรยา ก่อนนำซองเงินยัดใส่ถุงผลไม้แล้วนำไปเก็บภายในรถที่เบาะหลังฝั่งขวามือด้านหลังคนขับ ก่อนกลับไปช่วยภรรยาถือของอีกครั้ง แต่เมื่อพวกตนเดินมาที่รถก็พบว่า กระจกรถฝั่งขวาด้านหลังคนขับถูกคนร้ายใช้ของมีคมตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ส่วนเงินสดก็หายไปทั้งซอง จึงเข้าแจ้งความทันที มีรายงานข่าวแจ้งว่า จสกการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายทั้ง 3 คน ใช้ชื่อและพาสปอร์ตปลอมในการเช่ารถยนต์มาจากจ.ชลบุรี โดยในวันเกิดเหตุพบว่า คนร้ายทั้งสามรายตระเวนหาเหยื่อที่บริเวณห้างสรรพสินค้าโดยรอบจุดเกิดเหตุโดยเริ่มจากสยามสแควร์ จนมาพบผู้เสียหายทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคาน จึงสะกดรอยตามมาที่รถของผู้เสียหายเมื่อสบโอกาส คนร้ายได้ขับรถที่เช่ามาจอดปิดบังเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตุ จากนั้นหนึ่งในคนร้ายที่สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้าจะลงมือทุบกระจกและขโมยทรัพย์สินไป ก่อนพากันขับรถที่เช่ามาหลบหนีไปทันที ก่อนนำไปจอดทิ้งที่ซอยสุขุมวิท 22 แล้วแยกย้ายหลบหนีไป