กรมสอบสวนคดีพิเศษสนธิกําลังกับ บก.สส.สตม. ตม.จว.สมุทรปราการและทหาร ร.21 พัน 2 รอ.และหน่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องบุกเข้าทะลายหอพักให้ต่างด้้าวลายสัญชาติมาเช่าห้องและออกเรี่ยไลเป็นแก๊งขอทานและรวบตัวหัวโจกเก็บเงินขอทานต่างด้าวเพื่อคุ้มครองในการออกขอทานในพื้นที่ จ.สมุทรปราการและใกล้เคียงคาห้องพัก เมื่อวันที่ 5 ต.ค.59 เวลาประมาณ 22.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการ จว.สมุทรปราการ , พ.ต.ท.คมวิชช์ พัฒนรัฐ ผอ.ส่วนปราบปราม การค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.สืบสวนสอบสวน บก.สส.สต ม. ,พ.อ.ประสิทธิ์ พิมพ์บุญมา ผบ.รส.ร.21 พัน 2 รอ. , พ.ต.อ.ณรงค์เวทย์ โอนสูงเนิน ผกก.ตม.จว. สมุทรปราการ , พ.ต.อ.นพดล สุคนธวิทย์ ผกก.สภ.สําโรงเหนือ ภ.จว.สมุทรปราการ , นายธีรพล ศิริ นานุวัฒน์ ปลัดจว.สมุทรปราการ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จํานวน 12 ราย และสัญชาติเมียนมา จํานวน 5 ราย กระทําความผิดในข้อหาเข้ามาใน ราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 81 แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และบางราย ทํางานผิดสถานที่และผิดเงื่อนไขในการทํางานของคนต่างด้าว ทั้้งนี้จากการสืบสวนหาข่าวร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่กล่าวมา พบว่าได้มีต่างด้าว สัญชาติดังกล่าวได้มีพฤติการณ์เข้ามาทางด่านชายแดนของประเทศกัมพูชา โดยผ่านช่องทางธรรมชาติ และไม่ได้ผ่านการตรวจที่่ถูกต้องตามช่องทางที่ี่กําหนดไว้ของเจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมือง โดย เมื่อข้ามผ่านชายแดนแล้วก็จะมีรถตู้มารอรับ โดยเก็บค่าบริการและนํามาส่งที่เขต อ.สําโรงเหนือ จว. สมุทรปราการ และทําการแยกย้ายแอบเช่าห้องพัักเพื่อรอไปทําการเรี่ยไลขอทานในพื้นที่ต่างๆ โดยมี นายยาว สัญชาติกัมพูชา เป็นผู้ควบคุมและเก็บเงินขอทานสัญชาติเดียวกัน โดยแจ้งว่าจะได้รับความ สะดวกและการคุ้มครองในการออกเรี่ยไลขอทาน โดยไม่ถูกจับ ทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจในการถูกเก็บเงินดังกล่าว เมื่อชุดจับกุมได้ให้สายเข้าไปในหอพักเพื่อเจรจาติดต่อกับนายยาว ได้แจ้งให้ชุดจับกุม ทราบว่านายยาวอยู่่ในที่พัักพร้อมกับต่างด้าวที่นายยาวได้ให้พักอยู่ตามห้องต่างๆ จึงนํากําลังเข้าตรวจค้้นหนัังสือเดินทางและใบอนุญาตทํางานของคนต่างด้าว พบว่ามี ความผิดจึงควบคุมตัวส่ง พนง.สอบสวน ภ.จว.สมุทรปราการ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายและดูในส่วน ที่อาจจะมีการขู่บังคับให้ทําการขหรือบังคับขู่เข็นทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่ง อาจจะเป็นการค้ามนุษย์ตามกฎหมายและขยายผลในการสอบปากคําต่างด้าวที่ตกเป็นเหยื่อเพื่อคัด แยก โดยในส่วนของเจ้าของที่ให้เช่าที่พักอาศัยของคนต่างด้าว อาจจะต้องถูกเรียกสอบปากคําและดําเนินคดีในข้อหารับต่างด้าวเข้าพักโดยผิดกฎหมาย และไม่แจ้งที่ พักของคนต่างด้าวภายใน 24 ชั่วโมง ตามมาตรา 38 แห่งพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 หรืออาจจะ เป็นเรื่องของการนําพาและให้ที่พักพิงของคนต่างด้าว หากครบองค์ประกอบความผิดตามประมวล กฎหมายอาญาโดยเคร่งครัดต่อไป