วันที่ 28  ก.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเด็กนักเรียนสูบกัญชาในโรงเรียน ว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอ และต้องการให้เร่งพิจารณาคือกฎหมาย พรบ.กัญชากัญชง ทุกมิติเป็นกฎหมายที่ทำขึ้นมาโดยมีการรับฟังทุกมิติ พร้อมนำความกังวลทั้งหลาย มาทำเป็นกฏหมายและให้มีผลบังคับใช้ แต่เมื่อนำกลับมาในวาระ2และ3 กลับมีเกมการเมืองที่ทำให้ไม่ได้รับการพิจารณา ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะต้องเร่งให้มีกฎหมายกัญชากัญชงนี้

นายอนุทิน กล่าวว่า การที่มีคลิปหรืออะไรออกมาขณะนี้เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่แล้วไม่จำเป็น ต้องรอกฎหมายกัญชากัญชง เดี๋ยวคงมีคนไปแจ้งความให้ดำเนินการตามกฏหมาย เพียงแต่ถ้ามีกฎหมายกัญชากัญชงออกมา จะทำให้สามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะจะมีการระบุชัดเจนว่านี่คือเรื่องของการควบคุมกัญชากัญชง ทุกวันนี้เราใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ก็ต้องไประบุว่ากัญชากัญชงห้ามใช้ในประเด็นใดบ้าง และที่คนบอกว่าดุไม่เท่ากฎหมาย แต่ในความเป็นจริงหากบังคับใช้ มันก็คือกฎหมายฉบับหนึ่ง 

"นี่เป็นผลพวงของการที่พรรคการเมือง ร่วมรัฐบาล หรือพรรคฝ่ายค้าน ที่ยังไม่ทันได้พิจารณา ก็ไปหยุดกระบวนการเสียก่อน เลยทำให้เกิดความกังวล แต่ว่าไม่มีผลในเรื่องของการปฎิบัติ" นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อมีการสูบและเสพกันมากขึ้น ยิ่งทำให้เกิดการสูบเสรีมากยิ่งขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า "ผู้ที่บล๊อก กฎหมายฉบับนี้ ผู้ที่ทำให้เกิดความล่าช้า ก็ต้องชี้แจงไม่ใช่ผมชี้แจงไม่ใช่ให้ผมชี้แจง อย่ามาโทษผม ผมทำให้กัญชาหลุดจากการเป็นยาเสพติด เพื่อมาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และมีระเบียบควบคุมอย่างดีแล้ว ได้ร่างกฏหมายเอามาควบคุมการใช้กัญชากันชง เป็นการเฉพาะเพื่อให้เกิดความสบายใจ เกิดการบังคับใช้ มีการควบคุม ให้ชัดเจน และกฎหมาย ก็ค่อนข้างมีการปิดข้อกังวลทั้งหมดอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องของสันทนาการ ผมขอย้ำว่าไม่มีเรื่องของสันทนาการ ฉะนั้นใครใช้ทางด้านสันทนาการก็ผิดกฎหมาย แต่ถ้ากฎหมายฉบับนี้ถูกเร่งให้ออกมา ปัญหาเหล่านี้มันก็จะจบไป"

ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายฉบับนี้จะสามารถควบคุม นักเรียนหรือเยาวชนที่มาสูบกัญชาได้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ควบคุมได้ ในโรงเรียนครูอาจารย์ก็ต้องควบคุม หากกินเหล้าสูบบุหรี่ในโรงเรียนไม่ได้ ก็สูบกัญชาในโรงเรียนไม่ได้เช่นกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาติติงในเรื่องนี้ด้วยว่า ภาพ ที่นักเรียนสูบกัญชานั้นเป็นภาพที่ทุเรศที่สุด นายอนุทิน กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้ท่านพูดแรงอย่างนี้เลยหรือ" 

เมื่อถามว่าจะขอให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนการออกกฏหมายฉบับนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "พรรคเพื่อไทย ก็รับหลักการกฎหมายฉบับนี้ ตอนที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ออกมาพูดเรื่องดังกล่าว ก็เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้อ่านเนื้อหากฎหมายฉบับนี้ ซึ่งทั้งเรื่องเยาวชน เรื่องสันทนาการ และเรื่องอื่นๆกฎหมายได้ปิดช่องตรงนี้ไว้หมดแล้ว คิดอย่างอื่นไม่ได้หรอก ใครจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ จะสรุปอย่างไรก็แล้วแต่ มันไม่ใช่เรื่องทุเรศ มันเป็นเรื่องที่ดีแต่เรื่องทุเรศ คือเรื่องที่ไปบล็อกมากกว่า ท่านชอบพูดและติดตามแต่เรื่องสาธารณสุข ทั้งเรื่องวัคซีน ยา ระบบสาธารณสุข แต่ทุกเรื่องผมก็ทำได้หมด และโชคดีที่ ครั้งนี้ท่านไม่ท้าพนันผมอีก รวมถึงเรื่องกัญชาผมก็ทำได้ แต่ทุกอย่างผมทำเพื่อพี่น้องประชาชน แต่ด้วยความเป็นเจ้านายผมก็ไม่อยากจะเถียง ไม่อยากต่อปากต่อคำด้วย"

เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะมีการดิสเครดิต เพื่อต้องการกัญชากัญชงให้กลับไปเป็นยาเสพติดอีกเหมือนเดิม นายอนุทิน กล่าวว่า ไปดูในหลายบทความจะเห็นว่า มีคนที่เสียประโยชน์ ตรงนี้อยู่ รัฐมนตรีสาธารณสุขไม่สามารถที่จะปลดหรือนำกลับเข้าไปเป็นยาเสพติดได้ คำแนะนำนี้มาจากคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ที่เป็นมติออกมา ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้มาดำเนินการ 

"คนที่พูดอะไรทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นการพูดเอามัน ไม่ได้ศึกษา ความจริงท่านรู้หมดนั่นแหละ แต่ว่าทำให้มันเป็นประเด็น ก็อย่างที่ว่า วันนี้แม้กระทั่งพรรคก้าวไกล ก็ออกมาโจมตีเรื่องกัญชา ทั้งที่ตัวเองก็รับหลักการ ตอนที่จะให้โหวตว่าจะให้พิจารณาหรือไม่ เขาก็โหวตรับหลักการและให้นำกฎหมายนี้มาพิจารณาในวาระ 2 และ 3 วันนี้มีสมาชิกพรรคก้าวไกล ที่เป็นหมอ ออกมาบอกว่า ผมต้องรับผิดชอบเพราะยังมีเรื่องของสันทนาการอยู่ ก็อยากบอกว่าคนที่เสนอให้มีสันทนาการไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย เพราะในร่างของพรรคภูมิใจไทยไม่มีคำว่าสันทนาการ เราทำกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างเดียว แต่ร่างของพรรคก้าวไกลยังเสนอให้มีสันทนาการ เพียงแต่ในชั้นกรรมาธิการร่างนี้ตกไป และในพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการเสนอ โดยนายกนก วงษ์ตระหง่าน เป็นผู้เสนอแต่ก็ตกไป ยืนยันว่าภูมิใจไทยไม่มีการเสนอเรื่องสันทนาการ ฉะนั้นจะมาบอกว่าเราต้องรับผิดชอบมันจึงไม่ใช่ประเด็น"