สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงทุ่มเทพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยทรงตั้งพระราชหฤทัยนำประโยชน์สุขสู่อาณาประชาราษฎร ผ่านโครงการอันเนืองมาจากพระราชดำริที่พระราชทานให้ดำเนินการไว้ยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศมากมาย จึงทรงเป็นที่พึ่งของประชาชนที่ได้น้อมนำองค์ความรู้ผ่านโครงการอันเนืองมาจากพระราชดำริต่างๆ ไปสู่การปฏิบัติทำให้พสกนิกรของพระองค์ท่านมีอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัวอยู่ดีกินดีขึ้น เช่น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งศูนย์ศิลปาชีพ ทรงส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่เป็นส่วนสำคัญของการผลิตผ้าไหม และได้ผลผลิตจากลูกหม่อนเพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ โดยพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสไว้ว่า “การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม นอกจากจะเป็นการเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้ว ยังเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่และดีงามของชาติไทย ที่ได้สืบต่อกันมาเป็นเวลานานอีกด้วย ไม่ว่าเศรษฐกิจประเทศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร การพัฒนาการเลี้ยงไหมก็ต้องดำเนินต่อไป” ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้นำพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางฯ เจ้า พระบรมราชินีนาถที่ทรงงานเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้ประชาชนรับรู้เรื่องราวการทรงงานด้วย พระเมตตาที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทยโดยการเผยแพร่เบื้องหลังวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ดีกินดีขึ้นก็ด้วยน้ำพระทัยของพระองค์ท่านโดยได้จัดนิทรรศการ “ลูกหมอน หนอนไหม” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ พระนักษัตร (84 พรรษา) 12 สิงหาคม 2559 ให้ประชาชนเข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมาไปจนถึง 30 ตุลาคม 2559 เวลา 10.00-19.00 น. ณ อาคารนิทรรศน์รัตนโกสินทร์ ถ.ราชดำเนินกลาง (ยกเว้นวันจันทร์) ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ประธานในพิธีเปิดงาน กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ “ลูกหม่อน หนอนไหม” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พร้อมหน่วยงานราชการ เอกชนและเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกันถ่ายทอดผลที่เกิดขึ้นจากการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมุ่งหวังสร้างความกินดีอยู่ดีให้ประชาชนของพระองค์ได้ยืนหยัดอยู่อย่างมั่นคงยั่งยืนและสืบทอดมาอย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจแก่ชาวไร่ชาวนนาผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ด้วยการที่ทรงนำผ้าทอไหมมาตัดเย็บเป็นฉลองพระองค์ทรงนำให้คนในเมืองได้หันมาสนใจภูมิปัญญาท้องถิ่น จนเกิดความนิยมทั้งภายในและภายนอกประเทศ สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ห่างไกลได้เป็นอย่างดี การจัดงานในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจประสานความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการสืบสานพระราชหฤทัยที่พระราชทานเป็นแนวทางไว้ จนเกิดผลสำเร็จขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม นิทรรศการ “ลูกหมอน หนอนไหม” ต้องการให้ประชาชนได้ช่วยกันเผยแพร่ผลที่เกิดจากการทรงงานของทั้งสองพระองค์ ที่ก่อให้เกิดเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นายพิพัฒน์ อิศรเสนา ณ อยุธยา ผู้แทนพิเศษสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ดำเนินการจัดนิทรรศการ “ลูกหมอน หนอนไหม” มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่เบื้องหลังชีวิตของราษฎรที่มีความอยู่ดีกินดีขึ้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงงานเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ในอดีตตลอดมาจนเกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน ถ่ายทอดผ่านภาพถ่ายโดยผลงาน นายชินมิษ บุนนาค เจ้าหน้าที่สารบรรณ สำนักงานผู้แทนพิเศษ สำนักทรัพย์สินฯ และเรื่องเล่าจาก “ต้นหม่อน” พืชที่ปลูกเพื่อนำ “ใบหม่อน” มาเลี้ยงตัวไหม ตามโครงการของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีผลพลอยได้จากการเลี้ยงไหม ได้แก่ “ลูกหม่อน” ที่เกษตรกรสามารถส่งเข้าแปรรูปในโรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่สนับสนุนงานให้แก่แม่บ้านที่ปลูกเพื่อนำใบเลี้ยง “หนอนไหม” ถักทอเป็นผืนผ้าไหมส่งเข้าสู่มูลนิธิส่งเริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายในงานก็มีชาวบ้านที่เดินตามรอยพระยุคลบาทและหน่วยงานที่น้อมนำแนวพระราชดำริไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ก่อให้เกิดความสุขอย่างยั่งยืน ในครอบครัวและในชุมชนซึ่งได้เรียนรู้นำไปประกอบอาชีพทำให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ด้วยการพึ่งพาตนเอง มาร่วมกิจกรรมในงานนี้ด้วย (อ่านต่อ) ฤทัยรัตน์ เมืองกฤษณะ / รายงาน