กลางดึกวันที่ 10 ต.ค. 59 บริเวณวัดป่าแสงธรรม หมู่ที่ 8 บ้านเหล่าหนาด ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีคนร้ายประมาณ 20 คน คลุมหน้าเป็นไอ้โม่ง ติดแบตเตอรี่ที่ใช้หาปลายามกลางคืน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกจี้ตัวแม่ชีคำผิว หรือจ่อย ทุมกิ่ง อายุ 66 ปี ขณะหลับพักผ่อนอยู่ในกุฏิพร้อมกับโยมอีก 2 คน บังคับให้อยู่แต่ในห้องห้ามออกมา หากใครไม่เชื่อจะยิงทิ้งทั้งหมด ขณะเดียวกันคนร้ายอีกกลุ่ม ตรงรี่ไปยังกุฏิของพระคำ อธิปุตโต(โพธิ์ชัย) เจ้าอาวาส วัย 82 ปี สั่งให้อยู่เฉยๆห้ามส่งเสียงโวยวาย มิฉะนั้นจะฆ่าทิ้งทันที ต่อจากนั้นคนร้ายพากันไปยังต้นไม้พะยูง อายุประมาณ 100 ปี ซึ่งอยู่หลังกุฏิเจ้าอาวาส ห่างจากสำนักงานป่าไม้ที่ นพ.2(บ้านพนอม)เพียง 50 ม. ใช้เลื่อยยนต์ที่นำมาตัดโค่นอย่างชำนาญและไม่เกรงกลัวกฎหมาย จนต้นไม้ล้มลงข้างกุฎิคนร้ายรีบตัดเป็นท่อนๆ จากนั้นนำรถปิกอัพวิ่งเข้ามาขนไม้อย่างเร่งด่วน ก่อนจะพากันขึ้นรถขับหลบหนีไป หลังกลุ่มคนร้ายออกจากวัดไปหมดแล้ว พระคำและแม่ชีจึงออกมาจากกุฏิแล้วโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้มาตรวจสอบ พร้อมกับนายขาน ศรีโสภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 แต่ยังไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าอุเทน รอกระทั่งรุ่งเช้าจึงแจ้งแก่ ร.ต.อ.พุฒิพงศ์ อุตระศรี ร้อยเวร สภ.ท่าอุเทน ทราบ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.ฯ พ.ต.ท.สมยศ จุลโลบล รอง ผกก.ป.ฯ นำกำลังสมทบกับทหาร ป่าไม้ ตชด. ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ ไม้พะยูงที่คนร้ายตัดไป มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 ซม. แกนกลางกว้าง 40 ซม. วงรอบ 193 ซม. สันนิษฐานคนร้ายตัดทอนเป็นท่อนไปประมาณ 3 เมตรเศษ หากส่งข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จะมีราคา 1,300,000 บาท ถ้าสามารถนำไปได้ทั้งต้น ราคาถึง 3 ล้านบาท แต่ความรีบร้อนจึงขนไปได้เพียงบางส่วน นายกิตติพันธ์ จันนนท์ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ นพ.2(บ้านพนอม) เปิดเผยว่าคนร้ายมีความเชี่ยวชาญชัยภูมิเป็นอย่างดี และรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตลอด คาดอาจจะมีคนในรู้เห็นเป็นใจส่งข่าววงในให้แก๊งนี้ทราบ เพราะคืนวันที่บุกปล้นนั้นเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งประจำการอยู่ในป่าไม้สับเปลี่ยนกำลังพอดี จึงยกพวกเข้าบุกจี้หัวเจ้าอาวาสอย่างเหิมเกริม ขณะที่ พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน เรียกสายสืบเข้าประชุมหารือทันที สั่งเร่งติดตามตัวแก๊งไม้พะยูงกลุ่มโดยเร็ว เพราะกระทำการอย่างเย้ยกฎหมายท้าทายอำนาจรัฐ และเมื่อปี 2558 เคยมีคนมาขอซื้อไม้พะยูงต้นนี้จากพระคำจ้าอาวาส ในราคา 2 แสนบาท แต่ท่านไม่ยอมขายขอบิณบาตรไว้ให้ลูกหลานชื่นชม คนร้ายจึงแอบไปตัดแต่มีทหารคอยคุ้มครอง คราวนั้นเผ่นหนีไปกับความมืดไม่ได้อะไรติดมือ และเจ้าหน้าที่ก็ดูแลรักษาไม้พะยูงต้นนี้มาโดยตลอด แต่ช่วงจังหวะสับเปลี่ยนกำลัง แก๊งคนร้ายจู่โจมบุกวัดยามวิกาล ตัดไม้ต้นนี้ไปจนได้ ตลอดเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา แก๊งไม้พะยูงเหิมเกริมหนัก ตระเวนตัดไม้ที่อยู่ริมทางหลวงอย่างไม่เกรงกลัว โดยเฉพาะในเขต ต.พนอม ถูกตัดจนไม่เหลือแม้แต่ต้นเดียว แหล่งข่าวแจ้งว่าในตำบลนี้ มีเจ้าพ่อไม้พะยูงอยู่ในระดับต้นๆ หลายคน เคยเป็นข่าวดังมาตลอดหลายปี การบุกวัดปล้นไม้ครั้งนี้น่าจะเป็นแก๊งเดิมที่อยู่ในพื้นที่ ตำรวจเร่งไล่ล่าตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป