เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 ต.ค. 59 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภานุรัตน์ หลักบุญ รรท.รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สมนึก น้อยคง รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย รองผกก.สส. พ.ต.ท.นันทภูมิ เรื่องรุ่ง รองผกก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดบก.สปพ.บช.น. และเจ้าหน้าที่เทศกิจ กว่า 30 นาย ร่วมกันปิดล้อมตรวจค้นอาคารไมมูณาการ์เด้นโฮม ซ.ราษฎร์อุทิศ 25/8 และอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อซอยราษฎร์อุทิศ 25 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นสถานที่พักเป้าหมายและเฝ้าระวังที่อาจมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาพักอาศัยเพื่อตระเตรียมการที่จะก่อเหตุ โดยใช้เวลาตรวจค้นกว่า 1 ชั่วโมง หลังเสร็จสิ้นการปิดล้อมตรวจค้น พล.ต.ท.ศานิตย์ เปิดเผยว่า ในเรื่องของความมั่นคง การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว เพื่อเป็นการป้องกันและเฝ้าระวัง รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือจากภาคประชาชนในการแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งในวันนี้ได้มีการประกอบกำลังเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ทหาร และเป็นเรื่องของมาตรการในการป้องกันโดยการตั้งสมมุติฐานเผื่อไว้ว่าอาจจะมีเหตุต่างๆเกิดขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการเฝ้าระวังเหตุร้ายต่างๆเพิ่มมากขึ้น และอยากให้พี่น้องประชาชนได้สบายใจเพราะเป็นการทำงานของตำรวจนครบาลที่มีความเข้ม และผลการตรวจสอบห้องพักทั้ง 33 ห้องของอาคารไมมูณาการ์เด้นโฮม ซึ่งเคยเป็นจุดที่คนร้ายคดีระเบิดราชประสงค์มาพักอาศัย ส่วนอีกจุดเป็นบริเวณอู่ซ่อมรถไม่มีชื่อซอยราษฎร์อุทิศ 25 ซึ่งเป็นจุดที่เคยเกิดเหตุระเบิดเมื่อปี 57 จนมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ ผลการตรวจสอบทั้งสองจุดไม่พบสิ่งปกติ แต่ที่ได้คือได้พูดคุยกับพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นคนในพื้นที่ ในส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการก่อวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑลในช่วงปลายเดือนนั้น เป็นเพียงการตั้งสมมุติฐาน ให้เจ้าหน้าที่มีความเข้มในการป้องกันเหตุตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ สถานทูต จุดเสี่ยงจุดล่อแหลม จึงอยากให้พี่น้องประชาชนมีส่วนช่วยในการสังเกตตรวจตราบุคคลแปลกหน้า รถยนต์ต้องสงสัย วัตถุต้องสงสัยต่างๆ รวมไปถึงสถานประกอบการต่างๆที่จำหน่ายสารตั้งต้นที่จะนำไปประกอบวัตถุระเบิด หากพบสิ่งผิดปรกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ถ้าเราร่วมมือกันเข็มตกซักเล่มก็คงจะได้ยิน ขอให้ยืดโยงผลประโยชน์ของชาติ ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ผลประโยชน์ส่วนตัวเอาไว้ข้างหลัง ซึ่งเชื่อว่าหากได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายปัญหาทั้งหมดก็จะได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน