ร้อยเอ็ด จัดกิจกรรม Kick off การน้อมนำแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว รอบ 2 ต่อเนื่อง รณรงค์ปลูกผักสมุนไพร ต้านภัย COVID-19
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.65 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick Off การน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว รอบ 2 ต่อเนื่อง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ณ สวนครัวจวนผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายชนาส ชัชวาลวงศ์ นายสนอง ดลประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายชูศักดิ์ ราชบุรี ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดร้อยเอ็ด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม
นายพิศ นันทพูนพิพัฒน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า กรมการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ทุกจังหวัดดำเนินการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว รอบ 2 ต่อเนื่อง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รณรงค์ปลูกพืชผักสมุนไพร ต้านภัย COVID-19 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารระดับครัวเรือนลดรายจ่ายในการดำรงชีวิตของประชาชน สร้างรายได้ระยะสั้นทั้งในระดับครัวเรือนและระดับกลุ่มอาชีพ เน้นการพึ่งตนเอง สร้างความรักความสามัคคี การเกื้อกูลกันของคนในชุมชน โดยกิจกรรมที่ดำเนินการในวันนี้ เป็นกิจกรรมผู้นำต้นแบบ ตัวอย่างที่เห็นจริง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมกันปลูกผักสวนครัว มากกว่า 10 ชนิด และพืชผักสมุนไพร ได้แก่ กระชาย ฟ้าทะลายโจร ขิง ข่า ตะไคร้ เป็นต้น ซึ่งถือเป็นตัวอย่างในการรณรงค์สร้างกระแสการปลูกผักในระดับจังหวัด อำเภอ ขยายผลสู่ในระดับตำบลและหมู่บ้าน ต่อไป
นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาเราต่างได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ รายได้ แต่เห็นได้ว่าถ้าทุกครัวเรือนสร้างความมั่นคงทางอาหาร จะเป็นการลดรายจ่ายในครัวเรือน สามารถพึ่งตนเองได้ เกิดความรักความสามัคคี เกื้อกูลกันของคนในชุมชน ผ่านพ้นวิกฤติได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคงทางอาหาร ให้เกิดผลสำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ อันจะเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นพลังเกื้อหนุนในการพัฒนาหมู่บ้าน/ชุมชน และประเทศชาติ ต่อไป