สัปดาห์พระเครื่อง / อ.ราม  วัชรประดิษฐ์

พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน ก็ได้รับการกล่าวขวัญถึงเรื่องเหนียว สมัยก่อนคนจะทัดไว้กับใบหู มีนักโทษแหกเรือนจำแย่งปืนจากผู้คุมแล้วรัวยิง ปรากฏว่ากระสุนไม่ระคายผิวผู้คุมคนดังกล่าวแม้แต่นัดเดียว เรียกว่าเป็นของดีราคาถูก

วันนี้ขอแนะนำท่านผู้อ่านในเรื่อง “พระดังในอดีต” ที่ขึ้นชื่อลือเลื่องในพุทธคุณด้านแคล้วคลาดยิงไม่ออกฟันไม่เข้า คงกระพันชาตรี ประเภทแรกต้องยกให้พระเครื่องตระกูลยอดขุนพล ไม่ว่าจะเป็น พระร่วงหลังรางปืน พระหูยาน พระท่ากระดาน พระพุทธชินราชใบเสมา พระมเหศวร และพระยอดขุนพลกรุต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงในเรื่องความ "เหนียว" ทั้งสิ้น สังเกตให้ดีพระตระกูลนี้จะเป็นพระประเภทเนื้อ "ชิน" ซึ่งมีความหมายถึง "ชินะ หรือ ชนะ" บวกกับการผสมแร่โลหะอันมีคุณวิเศษต่างๆ ยิ่งทำให้เป็นที่เสาะแสวงหา พระเครื่องบางประเภทยังถูกผูกเข้ากับตำนานวีรบุรุษ เช่น ความแคล้วคลาดขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ถูกพระมหาอุปราชาจ้วงฟันด้วยพระแสงของ้าว แต่ด้วยพุทธคุณขององค์พระที่ได้รับการอัญเชิญให้ประดิษฐานบนพระมาลาทำให้เพียงถูกขอบ จนเรียก “พระมาลาเบี่ยง” มาแต่นั้น ทำให้เกิดความเชื่อว่าเกี่ยวพันกับองค์พระประเภทยอดขุนพล เช่น พระร่วงหลังรางปืน พระหูยาน หรือพระพิจิตร ส่วน “พระมาลาเบี่ยง” ประดิษฐานที่พระที่นั่งจักรพรรดิพิมานนั้น พระพุทธรูปที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยง เป็นพระพุทธรูปศิลปะเขมรแบบบายน ราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นพระพุทธรูปทองคำรายล้อม 21 องค์ แบ่งเป็น พระพุทธรูปประทับยืน และ พระพุทธรูปประทับนั่ง

พระปิดตาหลวงปู่ศุข พิมพ์ห้าเหลี่ยม วัดปากคลองมะขามเฒ่า

พระผงสุพรรณพิมพ์หน้ากลาง

 “พระพุทธรูปประทับยืน” เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องพระพักตร์ค่อนข้างกลม แย้มสรวล ทรงศิราภรณ์เป็นชฎามงกุฎซ้อนกันสามชั้น ทรงกุณฑลรูปตุ้ม ประทับยืนตรง แสดงอภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสอง ทรงกรองศอ พาหุรัด ทองกร และทองพระบาทจำหลักลาย รัดประคดประดับเครื่องเพชรพลอย มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับ กับมีทั้งชายภูษารูปหางปลาห้อยย้อยลงมาเบื้องหน้าทับบนอันตรวาสก

พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า

สำหรับ “พระพุทธรูปประทับนั่ง” มีพระพักตร์และทรงศิราภรณ์ละม้ายกับพระพุทธรูปประทับยืน เพียงลดรายละเอียดเครื่องทรงลง พระพุทธรูปครองอุตราสงฆ์ห่มเฉียง เปิดพระอังสะขวา ด้วยปรากฏขอบอุตราสงฆ์พาดผ่านพระอังสาซ้ายเฉียงลงมาทางด้านขวา พระพุทธปฏิมาประทับนั่งทั้งหมดประทับนั่งในท่าวีราสนะ พระชงฆ์ขวาซ้อนเหนือพระชงฆ์ซ้าย แสดงธยานะมุทรา พระหัตถ์ขวาซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้าย กับทั้งในพระหัตถ์นั้นมีสิ่งของบางอย่างซึ่งทรงถืออยู่เข้าใจว่าเป็นวชิระหรือหม้อน้ำมนต์ ทำนองพระไภษัชคุรุ  พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ ที่รายรอบพระมาลาเบี่ยงนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับสั่งว่ามีชาวบ้านทอดแหได้พระพุทธรูปดังกล่าวในลำแม่น้ำมูล ซึ่งอาจจะตรงกับบริเวณวังปลัด แขวงเมืองนครราชสีมา ต่อมาพระยานครราชสีมานำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปเหล่านี้ประดิษฐานรอบพระมาลาเบี่ยงที่ทรงสร้างขึ้น

พระพุทธ 25 ศตวรรษเนื้อเงิน

นอกจากนี้ พระเครื่องที่ขึ้นชื่ออีกตระกูลหนึ่งคือพระสมเด็จทุกวัด ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ไม่ว่าจะเป็น วัดระฆังโฆสิตาราม วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) วัดไชโยวรวิหารหรือเกศไชโย นอกจากมีพุทธคุณครอบจักรวาลในฐานะจักรพรรดิแห่งพระเครื่องแล้ว ยังได้รับการล่ำลือถึงความแคล้วคลาดปลอดภัย เช่น เรื่องของ "ลุงพุฒิ" อันเป็นเจ้าของพระสมเด็จองค์งามที่เดิมเป็นของคุณฉลี ยงสุนทร ปัจจุบันอยู่กับ "รังใหญ่" คุณไชยทัศน์ เตชะไพบูลย์ (โป๊ยเสี่ย) กล่าวกันว่าลุงพุฒิแกขี้เมา พกพระสมเด็จฯ เดินไปเดินมา คนก็จ้องจะดักตีเอาพระ แต่ไม่เคยดักตีแกได้เลยไม่ว่าแกจะเมาขนาดไหน นอกจากนี้ยังมีเรื่องจริงไม่อิงนิยายที่คุณนิพนธ์ พร้อมพันธ์ รอดจากการถูกรุมสกรัมตอนม็อบบุกมาได้ ทั้งเนื้อทั้งตัวแขวนพระสมเด็จวัดระฆังฯ อยู่องค์เดียว ไม่นับการยิงอดีต ส.ส.ประชา ประสพดี ที่แขวนพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ซึ่งถูกลั่นกระสุนใส่ขณะกำลังเอี้ยวตัวเก็บพระสมเด็จวัดบางขุนพรหมให้เข้าไปในอกเสื้อพอดีทำให้กระสุนถูกที่ไม่สำคัญ

พระวัดรังษี พิมพ์ใหญ่

พระเครื่องอีกประเภทหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงเรื่องเหนียว ได้แก่ พระ 25 พุทธศตวรรษ ทั้งเนื้อชินและเนื้อดิน มีเรื่องเล่าว่า ฯพณฯ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พกพาติดตัวเป็นประจำ ทำให้รอดพ้นจากการลอบสังหารด้วยยาพิษ และอาวุธต่างๆ อย่างน่ามหัศจรรย์ และเป็นที่กล่าวขวัญในวงการนักเลงโดยเฉพาะเนื้อดินว่า สมัยก่อนคนจะทัดไว้กับใบหู มีนักโทษแหกเรือนจำแย่งปืนจากผู้คุมแล้วรัวยิง ปรากฏว่ากระสุนไม่ระคายผิวผู้คุมคนดังกล่าวแม้แต่นัดเดียว เรียกว่าเป็นของดีราคาถูก

พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พิมพ์เส้นด้าย

ส่วนพระที่ทุกคนรู้จักกันดีในทางแคล้วคลาด ได้แก่ พระของพระครูวิมลคุณากร หรือหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ท่านทำไว้แจกชาวบ้านให้อยู่รอดปลอดภัย เรียกว่าใครแขวนหลวงปู่ศุขไว้ไม่มีอันตรายใดๆ มาแผ้วพาน ได้รับความนิยมทั้งสองริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจากปากคลองมะขามเฒ่าจนถึงกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับพระเครื่ององค์สำคัญ พระวัดรังสี (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งคณะเหลืองรังสี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.) ถึงขนาด สมเด็จฯกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงนิพนธ์ไว้ในของดีกรุงรัตนโกสินทร์ว่า "ผู้ใดมีพระวัดรังสี ผู้นั้นชีวีไม่วางวาย" และพระอีกประเภทหนึ่งสมัยก่อนเขาฝนให้วัวกินแข่งขวิดกันเรียกว่าอีกตัวขวิดไม่เข้า พระประเภทนี้ปัจจุบันสนนราคาสูงลิบลิ่ว ได้แก่ พระผงสุพรรณ กรุวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ที่ได้รับการยกย่องเป็นสุดยอดพระเครื่องในเบญจภาคีนั่นเอง

พระสมเด็จวัดระฆังฯ พิมพ์ใหญ่ องค์ลุงพุฒิ

บอกกล่าวเล่ากันมาพอสังเขป ใครใคร่อาราธนาพระเหนียวๆ เอาไว้ป้องกันตัวก็เลือกกันเอาเองแล้วกันครับผม

สุดยอดพระเนื้อชิน