มหาวิทยาลัยรามคำแหง เปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ภาค 2 ปีการศึกษา 2565 (เฉพาะส่วนกลาง) ชูระบบการศึกษาระดับสากลหลากหลายทางเลือก สะสมหน่วยกิตได้ล่วงหน้าได้ตั้งแต่จบ ม.3 ด้วยหลักสูตร Pre-degree พร้อมมอบสิทธิพิเศษปรับลดค่าเทียบโอนหน่วยกิต 50% สมัครได้ทั้งทางไปรษณีย์ อินเทอร์เน็ต และตนเอง ตั้งแต่วันนี้ – 21 พฤศจิกายน 2565

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้เปิดรับนักศึกษาใหม่ระดับปริญญาตรี ภาค 2 ปีการศึกษา 2565 (เฉพาะส่วนกลาง) เข้าสู่ระบบการศึกษามาตรฐานสากลหลากหลายทางเลือก โดยเปิดรับตั้งแต่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 - ม.6 ปวช. และผู้ที่จบ ม.3 แบบเทียบเท่าจาก กศน.) เข้าศึกษาในหลักสูตร Pre-degree (พรีดีกรี) เพื่อสะสมหน่วยกิตปริญญาตรีล่วงหน้า โดยสามารถนำหน่วยกิตมาเทียบโอนได้เมื่อจบ ม.6 รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้ที่ทำงานแล้วและมีวุฒิอนุปริญญาได้ศึกษาเพิ่มเติม หรือเรียนปริญญาใบที่ 2 โดยสามารถเทียบโอนหน่วยกิตได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังปรับลดค่าเทียบโอนหน่วยกิต 50% สำหรับผู้สมัครนักศึกษาใหม่ที่ใช้สิทธิเทียบโอนหน่วยกิต สำหรับผู้ที่จบการศึกษาหรือผู้ที่พักการเรียนจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงอีกด้วย

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นับเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชาชั้นนำของประเทศไทยที่มีค่าหน่วยกิตที่ถูกที่สุด เพียงหน่วยกิตละ 25 บาท ค่าสมัครแรกเข้าไม่เกิน 4,000.- บาท และค่าลงทะเบียนเรียนต่อเทอม ประมาณ 1,400.- บาท มีตำราเรียน โดดเด่นด้านหลักสูตรการศึกษามาตรฐานระดับสากลที่มีทางเลือกหลากหลาย ผนวกทีมคณาจารย์และนักวิชาการที่มีประสบการณ์สูง รวมถึงยังมีกิจกรรมบรรยายพิเศษและโครงการอบรมที่เน้นประโยชน์แก่ผู้เรียนตลอดทั้งภาคการศึกษา ผ่านการเรียนหลากหลายช่องทางที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์การศึกษายุคใหม่ หรือผู้ที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยและผู้เรียนที่ศึกษาควบคู่ 2 สถาบัน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฟังบรรยายในห้องเรียน เรียนย้อนหลังเสมือนเรียนในห้องเรียนผ่านทางออนไลน์ และสามารถเลือกวัน/เวลาสอบได้ด้วยตนเองด้วยระบบ E-testing ที่ทันสมัยอีกด้วย

ผู้สนใจสามารถสมัครได้ทางไปรษณีย์ ตั้งแต่บัดนี้ - 11 พฤศจิกายน 2565 ทางอินเทอร์เน็ต http://iregis2.ru.ac.th จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 หรือ สมัครด้วยตนเอง ระหว่างวันที่ 18 - 21 พฤศจิกายน 2565 (ทุกวัน) ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-310-8615, 02-310-8623 และติดตามอัพเดตข่าวสารของมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้ทาง Facebook Page: PR Ramkhamhaeng University