สำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (29th APEC Economic Leaders’ Meeting and Related Meetings) ของปะเทศไทย ภายใต้แนวคิดหลักเปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ Open. Connect. Balance. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และผู้แทนจาก 20 เขตเศรษฐกิจ แขกเชิญพิเศษ รวมถึงสื่อมวลชน รวมกว่า 5,000 คนปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงามและภาคภูมิใจ

ซึ่งนายธนาธิป อุปัติศฤงค์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการ APEC 2022 Task Force กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า  เบื้องหลังความสำเร็จของการจัดงาน APEC 2022 Thailand มาจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน ที่มุ่งมั่นเตรียมความพร้อมมาเป็นเวลาหลายปี รวมถึงคนไทยทุกคนที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดี เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดแก่ผู้มาเยือน”

ธนาธิป อุปัติศฤงค์

“ทุกฝ่ายร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ความสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพเอเปคของไทยในปี 2565 เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความพร้อมของไทยในทุกด้าน ที่สำคัญยังยืนยันความพร้อมของไทยในการจัดการประชุมระหว่างประเทศ ด้วยสถานที่จัดงานที่มีมาตรฐานระดับเวิลด์คลาส ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยี ที่ทันสมัย และบุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพที่พร้อมให้บริการด้วยความอบอุ่นแบบไทย”นายธนาธิป กล่าว

ด้าน นายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า ในฐานะสถานที่จัดประชุม ศูนย์ฯ สิริกิติ์ได้ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เทคโนโลยี และบริการ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้ได้ตอกย้ำการเป็นที่สุดของอิเวนต์แพลตฟอร์ม ที่สามารถรองรับการจัดงานได้ทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด และยังเป็นพื้นที่ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้าร่วมงานทุกคน

นอกจากด้านพื้นที่แล้ว ศูนย์ฯ สิริกิติ์ ยังได้รับความไว้วางใจให้บริการจัดงานเลี้ยงรับรองในระดับผู้นำ รัฐมนตรี และผู้เข้าร่วมประชุม ไปจนถึงสื่อมวลชน ตลอดทั้งสัปดาห์การประชุม ภายใต้โจทย์ BCG หรือ Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว

ศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล

ขณะที่ชั้น LG ซึ่งเป็นศูนย์ผู้สื่อข่าว นอกจากอาหารที่มีความหลากหลายทั้งไทยและนานาชาติแล้ว ในแต่ละวันจะเกี่ยวกับขนมไทย อาทิ ขนมบุหลันดั้นเมฆ ช่อม่วง ล่าเตียง ขนมเบื้อง และปั้นสิบนึ่ง ผสมผสานเข้ากับเสน่ห์ของหัตถกรรมและงานผ้าของไทยเข้าไว้ด้วยกัน ในการนำเสนออาหารและศิลปะไทยพื้นบ้าน เพื่อเลี้ยงรับรองผู้สื่อข่าวจากทั่วโลก ส่วนชั้น G เป็นพื้นที่ทานอาหารของผู้เข้าร่วมประชุม โดยในแต่ละวันจะนำเสนอวัตถุดิบพื้นถิ่นที่โดดเด่นของไทย อาทิ ส้มโอ ดอกบัว มะพร้าว และกล้วย สำหรับชั้น 1 เป็นชั้นเลี้ยงรับรองผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รัฐมนตรีเอเปคและเจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปค ที่ได้รังสรรค์อาหารไทยที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยแนวสตรีทฟู้ดจาก 4 ภาค อาหารไทยต้นตำรับรสเลิศ และอาหารไทยฟิวชั่น เป็นต้น

ด้าน ม.ร.ว. สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวต่อว่า มีการนำเสนอ Soft Power ของไทยผ่านอาหาร เล่าวิถีชีวิตของคนไทย และนำเสนอวัฒนธรรมไทยลงไปในอาหาร นอกจากนั้นยังใช้วัตถุดิบที่มาจากชุมชน 100% มีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ และคัดสรรเฉพาะการปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับพันธกิจของศูนย์ฯ สิริกิติ์ ที่ให้ความสำคัญเรื่องความยั่งยืน และมุ่งต่อยอดและสานต่อโอกาสให้แก่สังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน

ม.ร.ว. สวัสดิวุฒิ สวัสดิวัตน์

โดยความสำเร็จในครั้งนี้เกิดึ้นจากความร่วมมือของทีมประเทศไทย ซึ่งไม่ได้หมายถึงทีมงานของศูนย์ฯ สิริกิติ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเชฟ ฟู้ดสไตล์ลิสต์ นักเรียนนักศึกษา ช่างฝีมือต่างๆ ที่มาร่วมกันถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยอันงดงามผ่านมื้ออาหารมื้อสำคัญสู่สายตาชาวโลก สร้างความประทับใจในการมาเยือนประเทศไทย