ไม่เสมอไปที่คนซื้อรถขับเคลื่อนสี่ล้อมาเพื่อลุย บางคนก็ซื้อมาเผื่อเอาไว้ หรือบางคนก็ชอบมาดเข้มของรถขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่โอกาสที่จะได้ลุยกันจริงๆ ในยุคนี้มีน้อยลงแล้วเพราะถนนหนทางในเมืองไทยไม่ค่อยเห็นถนนฝุ่น หากจะเข้าไปในป่าก็ต้องขออนุญาตกันวุ่นวาย ทางเลือกของรถคนไม่พร้อมจะลุย ก็มีพวกขับสองยกสูงให้เลือกจากทุกค่าย จึงได้รถที่มีหน้าตาไม่ต่างจากตัวลุย เพียงตัดระบบขับเคลื่อนตรงล้อหน้าออกไป ซึ่งได้ผลดีในเรื่องการดูแลรักษาน้อยลง ใต้ท้องสูงผ่านสิ่งกีดขวางได้ดี ของเชฟโรเลต โคโลราโด ขับสองยกสูง รุ่นแอลทีแซด จะเป็นทางเลือกในลักษณะนี้ ไม่ได้ถูกแต่งเติมเสริมเข้าไป แบบไฮคันทรี แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเลือกรถมาใช้งาน หลังจากมีโอกาสได้ลองในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อบนเส้นทางกรุงเทพฯ-ราชบุรีมาแล้ว คราวนี้ก็ได้มีโอกาสได้ลองรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงสี่ประตูกันบ้างหน้าตาของโคโลราโดใหม่ จะมีความแตกต่างไปจากรุ่นที่แล้ว จากการเปลี่ยนกระจังหน้าและฝากระโปรงใหม่ ให้ดูเป็นสปอร์ตที่หรูหรามากขึ้น โดยเฉพาะกับไฟหน้าที่มีไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน เป็นเส้นไม่ได้เป็นหลอดแอลอีดีแบบรถทั่วๆ ไป ทำให้ดูเหมือนกับรถหรูมากกว่า เสริมวัสดุอ่อนนุ่มในบางจุด ชุดไฟหน้าจะเปิดอัตโนมัติเมื่อความสว่างมีน้อย อย่างช่วงใกล้ค่ำหรือตอนขึ้นไปจอดตามที่จอดรถของตึกต่างๆ พอดับเครื่องลงจากลงไฟหน้าจะยังคงส่องสว่างอยู่ชั่วครู่ก่อนจะดับไปเอง สำหรับใครที่ไม่อยากให้ไฟหน้าเปิดก็สามารถหมุนปุ่มเพื่อปิดไฟได้ ก่อนจะเข้าไปในตัวรถสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมทได้เหมาะ สำหรับการจอดรถตากแดด จะได้ให้เครื่องปรับอากาศทำงานก่อนเข้าไปนั่งในรถภายใน 10 นาทีก่อนเครื่องยนต์จะดับ การสตาร์ทรถปกติจะใช้กุญแจเสียบแล้วบิดสตาร์ท ไม่ได้ใช้การกดปุ่ม เบาะทรงสปอร์ต สำหรับหน้าจอตรงมาตรวัด จะมีจอแสดงผล 3 รูปแบบ โดยเลือกจากปุ่มเมนูบนก้านสวิทช์ยกเลี้ยว เพื่อดูข้อมูลต่างๆ โดยแบ่งเป็นข้อมูลต่างๆ โดยแบ่งเป็นข้อมูลการเดินทาง อัตราบริโภคในแต่ละช่วง ซึ่งข้อมูลการเดินทางสามารถรีเซ็ตใหม่ได้จากปุ่มตรงปลายก้านสวิตช์ยกเลี้ยว อีกข้อมูลหนึ่งจะเป็นแรงดันลมยางที่ทางเชฟโรเลต ติดเซ็นต์เซอร์เอาไว้ในล้อ ทำให้เห็นค่าของแรงดันลมยางทั้งสี่ล้อ จะได้ไม่ต้องไปนั่งตรวจเช็คด้วยตัวเอง การเดินทางกับรถกระบะสี่ประตูนั้นไม่แตกต่างไปจากรถเก๋ง แต่ที่เหนือกว่าคือมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายรถ เวลาเดินทางไกลจึงสามารถใส่สิ่งของต่างๆ เข้าไปได้ตามความต้องการ เบาะหลังกว้างแบบรถเก๋ง แม้ว่าจะเป็นรถกระบะแต่เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต่างไปจากพวกรถเอสยูวี ราคาแพง เพราะในรถรุ่นนี้จะมีระบบแจ้งเตือนเมื่ออกจากช่องจราจร ซึ่งจะมีเสียงเตือนให้ได้ยินอย่างชัดเจน อาจจะตกใจบ้างเวลาต้องเปลี่ยนเลนกะทันหันเพื่อหักหลบรถคันหน้าจากเสียงเตือนที่ดังออกมา แต่สักพักก็จะชินไปเอง ค่อนข้างเงียบสำหรับการนั่งภายในห้องโดยสาร จากการออกแบบกระจกหน้าต่างคู่หน้าให้หนาขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีรอยต่อของช่วงประตูลดลง พร้อมกับการซีลกระจกหน้าและหลังคาที่เป็นรอยต่อกับกระจกเพื่อให้มีช่องว่างน้อยลง ลดเสียงดังของลมให้น้อยลง ลายล้อต่างจากรุ่นไฮคันทรี ในโคโลราโดใหม่ ถูกลดเครื่องยนต์ให้เหลือแค่ 2.5 ลิตร ไม่มี 2.8 ลิตรของตัวถังที่แล้วมาให้เลือก จึงต้องปรับกำลังให้ดีขึ้นเทียบได้กับรุ่น 2.8 เครื่องยนต์ดีเซลดูราแม็กซ์ ใช้เทอร์โบแปรผัน แบบวีทีจี ทำให้เครื่องยนต์ ความจุ 2.5 ลิตร สามารถรีดแรงม้าออกมาได้ถึง 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที ส่วนแรงบิด 440 นิวตัน-เมตร จะมาในช่วง 2,000 รอบ/นาที เมื่อเลือกระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำให้รอบเครื่องยนต์ต่ำมาก หากใช้วามเร็ว 120 กม./ชม. เข็มวัดรอบจะอยู่เกือบๆ ถึง 1,900 รอบ/นาที เครื่องยนต์ให้อัตราเร่งดี ช่วงเดินทางในเมืองหรือชานเมือง ความเร็วต่ำประมาณ 90 กม./ชม. อัตราบริโภคจะประหยัด ทำได้แถวๆ 15.6 กม./ลิตร ส่วนการเดินทางไกล ด้วยความเร็วประมาณ 120 กม./ชม. ตัวเลขจะทำได้ 13 กลางๆ ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับค่ายอื่นๆ อัตราเร่งของเครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีมาก เวลาจะแซงรถที่อยู่ด้านหน้า ก็สามารถกดคันเร่ง ส่งความเร็วให้เร่งแซงได้เป็นอย่างดี ขณะที่การเกาะถนนช่วงความเร็วสูง ก็มั่นใจได้ เมื่อค่าเคของสปริงถูกปรับแล้วเพิ่มขนาดของเหล็กกันโคลงให้ใหญ่ขึ้น โช้คอัพถูกปรับด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้ได้ความหนึบและซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าตัวที่แล้วด้วย คอลัมน์ ยุทธจักรยานยนต์