ย้ำประวัติศาสตร์-ประชาธิปไตย สอนได้แต่อย่าบิดเบือน กรณี การสอนของครูสาวใช้อคติส่วนตัวบิดเบือนประวัติศาสตร์ อันจะก่อให้เกิดความเสียหายและความแตกร้าวในสังคม 

วันที่ 22 ธ.ค.65 นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สิ่งที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อและโลกออนไลน์ จากกรณีครูสาวโรงเรียนดังในกรุงเทพมหานคร สังกัดสพฐ. กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการสอนเนื้อหาในวิชาประวัติศาสตร์ โดยพาดพิงพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมเพราะตลอดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการทหารบก นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทเสียสละ ทำความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ประเทศชาติ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย จึงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี ประธานองคมนตรี เป็นรัฐบุรุษ และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นั้น จนถึงแก่อสัญกรรม เป็นแบบอย่างของความจงรักภักดีต่อสถาบันและประเทศชาติบ้านเมืองที่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่าง สิ่งดีงามที่ท่านได้ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินนั้น จึงทำให้เป็นที่รักของชาวสงขลา เป็นรัฐบุรุษของคนไทยทั้งประเทศ แต่เรื่องราวจากข่าวที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่สบายใจให้คนจำนวนมาก 

นายนิพนธ์ ยังกล่าวอีกว่า การสอนวิชาประวัติศาสตร์นั้นเป็นเรื่องที่ดีที่บ่งบอกถึงรากเหง้าความเป็นมาของบรรพชนที่มีคุณูปการต่อการประเทศชาติบ้านเมืองอย่างไร เด็กและเยาวชนควรได้รับรู้เพื่อให้เกิดความรักความหวงแหนแผ่นดินเกิด แต่การเรียนวิชาประวัติศาสตร์จะต้องไม่ใส่อคติส่วนตัว หรือความเชื่อที่ผิดของครูผู้สอน เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้ข้อเท็จจริงนั้นถูกบิดเบือนไปตามอคติของผู้สอน ทำให้เกิดความเสียหาย สังคมเกิดความคลางแคลง จนนำไปสู่ความแตกแยกทางความคิด ความแตกร้าวในสังคมไทยได้ รวมถึงการสอนประชาธิปไตยต้องไม่มีการบิดเบือนเนื้อหา ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นกับครูผู้สอนที่ถือเป็นแม่พิมพ์ของชาติ จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการ ได้เร่งดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและพิจารณาโทษตามระเบียบฯ และกฎหมายต่อไป