สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรในหลวง-พระราชินี เนื่องในวันปีใหม่2566 พร้อมพระราชทานปฏิทินหลวงแก่ผู้มาลงนาม ขณะที่ประชาชนหลั่งไหลร่วมลงนามถวายพระพรเนืองแน่น "โพล" สำรวจคนไทยขอพรปีใหม่ "ขอให้ธุรกิจเศรษฐกิจในประเทศปังๆ" ส่วน 7วันอันตรายฉลองปีใหม่ 3 วัน สังเวยแล้ว146 ราย บาดเจ็บ 1,182 คน เชียงราย-สกลนคร-สุราษฎร์ แชมป์สูญเสีย 

     เมื่อวัน ที่ 1 ม.ค.66 ตั้งแต่เวลา 08.00 17.00 น. สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี  และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2566 แก่ผู้ที่มาลงนามถวายพระพร เนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ณ จุดลงนามถวายพระพร เต็นท์สีขาวบริเวณสนามหญ้าข้างศาลาลูกขุน ในพระบรมมหาราชวัง
     
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เช้าวันแรกของปีใหม่ ประชาชนจำนวนมากทยอยกันมาเข้าแถวต่อคิวรอเข้าถวายพระพร ในหลวง พระราชินี  และรับพระราชทาน "ปฏิทินหลวง 2566" เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2566 นอกจากประชาชนคนไทยที่ลงนามถวายพระพรแล้ว ยังมีพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านทั้ง กัมพูชา พม่า ลาว จำนวนมากมาสักการะพระแก้วมรกตเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันขึ้นปีใหม่เป็นจำนวนมาก
     
โดยกรุงเทพมหานคร ได้เปิดใช้งานอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน ลงอุโมงค์ฝั่งสนามหลวงมาขึ้นฝั่งกำแพงพระบรมมหาราชวัง พร้อมรับนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมพระบรมมหาราชวังซึ่งในปัจจุบันโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราชได้เปิดใช้งานแล้วตั้งแต่เดือนก.พ.65 ในส่วนอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานอยู่ระหว่างการทดสอบงานระบบต่างๆ โดยพื้นที่ภายในอุโมงค์สามารถรองรับปริมาณนักท่องเที่ยวได้ประมาณครั้งละ 2,500 คน
     
ทั้งนี้ ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในเบื้องต้นจะใช้เจ้าหน้าที่และจิตอาสา รวมถึงเจ้าหน้าที่เทศกิจควบคุมดูแลจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าใช้บริการในอุโมงค์ ตามจำนวนที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีการเตรียมแผนรองรับผู้ป่วยกรณีฉุกเฉินและส่งต่อผู้ป่วย โดยศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ได้ประสานกับโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลใกล้เคียง พร้อมจัดให้มีห้องพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้นภายในอุโมงค์ และจะมีจุดติดตั้งเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator :AED) รองรับกรณีฉุกเฉินด้วย ในส่วนของการป้องกันอาชญากรรมพื้นที่ภายในอุโมงค์และบริเวณโดยรอบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.พระราชวัง สน.ชนะสงคราม ตำรวจท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่เทศกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสนธิกำลังร่วมกัน โดยจัดตั้งเป็นกองอำนวยการร่วมฯ อำนวยความสะดวก และดูแลความเสี่ยงด้านความปลอดภัย โดยเฝ้าระวังผ่านระบบกล้องวงจรปิด( CCTV) ซึ่งติดตั้งอยู่ภายในอุโมงค์และพื้นที่โดยรอบ    
    
 นอกจากนี้ภายในอุโมงค์มีระบบระบายอากาศ ระบบสปริงเกอร์ดับเพลิงอัตโนมัติ เครื่องตรวจจับควัน ป้ายทางออกฉุกเฉิน ถังดับเพลิง อย่างครบถ้วน โดยจะมีการซักซ้อมแผนอพยพคนในกรณีฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอต่อไป สำหรับระบบไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวงได้เตรียมความพร้อมวงจรการจ่ายกระแสไฟฟ้าสำรองรองรับหากเกิดเหตุขัดข้องฉุกเฉินของระบบสายส่งไว้เรียบร้อยแล้ว      
    
 ส่วนการสนับสนุนการให้บริการนักท่องเที่ยวและประชาชนจะให้เจ้าหน้าที่จากสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และสำนักงานเขตพระนคร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของสำนักพระราชวัง อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์แนะนำนักท่องเที่ยวในการเข้าใช้อุโมงค์และเข้าชมพระบรมหาราชวัง ในส่วนการจัดเก็บขยะมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลจะใช้ถังขยะแบบห่วงและถุงพลาสติกใส จัดวางในจุดที่กำหนดอย่างเหมาะสม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ สามารถสังเกตวัตถุต้องสงสัยได้ง่าย และมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความสะอาดแนะนำการคัดแยกขยะแต่ละประเภทให้ถูกต้อง รวมถึงจะมีการเก็บมูลฝอยอย่างสม่ำเสมอในเวลาที่กำหนด ซึ่งการเตรียมการต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร คาดว่าจะอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวในการเข้าใช้อุโมงค์ทางลอดถนนหน้าพระลานและเข้าชมพระบรมหาราชวังได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย      
    
 ในการเปิดใช้อุโมงค์ในวันที่ 1 ม.ค.นี้ จะปิดการจราจรถนนหน้าพระลานตลอดทั้งวัน  โดยในวันดังกล่าวสำนักพระราชวังได้เตรียมสถานที่ไว้ให้ประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร เนื่องในเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานปฏิทินหลวง พุทธศักราช 2566 แก่ผู้ที่มาลงนามถวายพระพร ตั้งแต่เวลา 08.00  17.00 น.
     
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ,นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภากรุงเทพมหานคร  นำคณะผู้บริหาร สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และข้าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
     
วันเดียวกัน กรุงเทพโพลล์ โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง พรปีใหม่ 2566 ที่คนไทยอยากขอ โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,141 คน พบว่าเมื่อถามว่า หากขอพร 1 ข้อ ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวาระขึ้นปีใหม่ 2566 ปีเถาะ จะขออะไร ให้กับคนไทย ประเทศไทย ปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 57.4 ขอให้ธุรกิจ เศรษฐกิจในประเทศปังๆ รองลงมาคือ ขอให้คนไทยสุขภาพดีแข็งแรงไม่มีโรคภัย คิดเป็นร้อยละ 48.1 ขอให้บ้านเมืองสงบสุข คนไทยรักและสามัคคีกัน คิดเป็นร้อยละ 46.9 ขอให้โควิด-19 หมดไปจากประเทศไทยเสียที คิดเป็นร้อยละ 41.9 และขอให้ข้าวของไม่แพง ค่าครองชีพไม่สูง คิดเป็นร้อยละ 35.9
     
เมื่อถามความเห็นว่าปีเถาะ ในภาพรวมประเทศไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับปีที่ 65 ที่กำลังผ่านมา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ โรคระบาดโรคติดต่อ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.0 เห็นว่า จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนร้อยละ 32.8 เห็นว่า พอๆ กับปีที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 15.2 เห็นว่า แย่กว่าปีที่ผ่านมา
   
  ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า  ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 31ธ.ค.65 ซึ่งเป็นวันที่3 ของการรณรงค์ ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ เกิดอุบัติเหตุ 466 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 467 คน ผู้เสียชีวิต 59 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 36.70 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.04 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.56 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 80.90 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.2 ถนนใน อบต./หมู่บ้านร้อยละ 34.55 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 18.01  19.00 น. ร้อยละ 7.74 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20 - 29 ปี ร้อยละ 19.39 
     
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,878 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,205 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 424,745 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 67,203 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,964 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 18,116 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 8,497 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (19 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (20 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (7 ราย) 
     
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 3 วันของการรณรงค์ (2931 ธ.ค. 65) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,183 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ รวม 1,182 คน ผู้เสียชีวิต รวม 146 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ สุราษฎร์ธานี (42 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สกลนคร (46 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงราย (10 ราย) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 18 จังหวัด 
     
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้ ยังอยู่ในช่วงเฉลิมฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ประชาชนยังคงเดินทางท่องเที่ยวและทำบุญตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงยังมีการจัดงานเฉลิมฉลองและงานรื่นเริงในพื้นที่ ศปถ. จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินมาตรการดูแลความปลอดภัยในการเดินทางอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายกวดขันผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตขับรถ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และกลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย สำหรับการดูแลความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านชุมชนเข้มข้นการเฝ้าระวัง ตรวจตรา และป้องปรามผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ รวมถึงเข้มข้นการดูแลเส้นทางสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านและอำเภอ ซึ่งประชาชนใช้เป็นทางลัดออกสู่ถนนสายหลัก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนนที่อาจเกิดขึ้น
     
ด้าน นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน เปิดเผยว่า ศปถ.ได้กำชับให้เข้มงวดกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงเมาแล้วขับและขับรถเร็วบนเส้นทางสายหลักและสายรองในช่วงที่มีสถิติอุบัติเหตุสูง ส่วนเส้นทางโดยรอบสถานบันเทิงและสถานที่จัดงานรื่นเริง ให้จัดชุดสายตรวจดูแลความปลอดภัยของประชาชน และเน้นย้ำให้ด่านชุมชนปฏิบัติการเข้มข้นเพื่อป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ทั้งนี้ ขอฝากประชาชนให้เฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความไม่ประมาทและเพิ่มความระมัดระวังอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เริ่มต้นปีใหม่ 2566 อย่างมีความสุขและปลอดภัย