เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 18.00น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงหนึ่งในเหตุผไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเพราะร่างรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้สามารถอุทธรณ์คดีในศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคดีจำนำข้าวว่า เรื่องคดีจำนำข้าวไม่ขอให้ความเห็น แต่การให้อุทธรณ์ได้นั้น ผู้ร่างอธิบายไว้แต่ต้นว่า การเปิดโอกาสให้พิจารณาคดีสองศาล เพราะมีการติติงว่าการใช้ระบบศาลเดียวอาจไม่เหมาะสมตามหลักปฏิณญาสากลว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ที่ระบุว่าการพิจารณาคดีบุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการทบทวนหรือให้พิจารณาคดีสองชั้น ก่อนหน้านี้เรามีการแก้กฎหมายในคดีบางประเภทที่มีการการพิจารณาสามชั้นให้เหลือสองชั้น เช่นคดีทุจริต ยาเสพติด แต่กรณีศาลฎีกานักการเมืองจากที่มีเพียงชั้นเดียวก็ให้มีสองชั้น ส่วนจะมีผลถึงคดีก่อนหน้านี้ในศาลฎีกานักการเมืองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกฎหมายลูก และตามรัฐธรรมนูญเดิม เปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้เพียงบางคดีที่มีหลักฐานใหม่ โดยให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจะรับหรือไม่ก็ได้ แต่ตามหลักสิทธิมนุษยชนเขาให้สิทธิต่อสู้คดีสองศาล และก่อนหน้านี้ที่เรามีปัญหาเกี่ยวกับการพิจารณาโดยศาลชั้นเดียว กรณีจำเลยหลบหนีไปต่างประเทศ เมื่อเราขอให้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต่างประเทศเคยตอบกลับมาว่า การพิจารณาโดยศาลชั้นเดียวไม่มีหลักประกัน และไม่สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน จึงไม่ยอมส่งตัวให้ เมื่อถามถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง หากประชามติไม่ผ่าน นายวิษณุ กล่าวว่า เท่าที่ฟังนายอภิสิทธิ์คงไม่ได้ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนร่างเอง คงต้องการให้เป็นผู้รับผิดชอบ มากกว่า การร่างรัฐธรรมนูญสองครั้งที่ผ่านมาเพราะที่ผ่านมาไม่ได้เป็นถึงขั้นนั้น นายกฯ ขออะไรไปยังผู้ร่างก็ไม่ได้รับการตอบสนองตั้งหลายข้อ