สำหรับผู้ที่ขับรถในเมืองร้อน ย่อมรู้ดีว่าการติดฟิล์มรถยนต์นั้นสำคัญมาก และพอจะรู้ว่าฟิล์มยิ่งดำ ยิ่งดี และตั้งใจจะติดฟิล์มรถยนต์แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นรถเพิ่งถอยมาใหม่ หรือจะเป็นรถเก่าที่ฟิล์มเดิมถึงอายุการใช้งานที่ต้องเปลี่ยนแล้ว วันนี้เราจะลองมาแนะนำว่า ถ้าคิดจะติดฟิล์มรถยนต์จะมีราคาค่าติดขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง ลองไปดูกันเลย

ติดฟิล์มรถยนต์ เทคโนยิ่งล้ำ ราคายิ่งสูง

ปัจจุบันฟิล์มติดรถยนต์มีหลายประเภท มาพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ข้อดีคือยิ่งตอบโจทย์คนใช้รถอย่างเรา เช่น ผสมเซรามิก อนุภาคแบบนาโน ยิ่งบาง ยิ่งป้องกันความร้อนได้ดี ทั้งอัลตราไวไอเลตและอินฟาเรด ทัศนวิสัยยิ่งดี ไม่ขวางสัญญาณการเชื่อมต่อ เช่น อินเทอร์เน็ต สัญญาณดิจิทัล เป็นต้น แต่สิ่งที่มาพร้อมกับนวัตกรรมล้ำคือ ราคาก็ยิ่งสูงตามไปด้วยนั่นเอง 

ขนาดรถยนต์ มีผลต่อราคา

เพราะขนาดรถยนต์มีทั้งไซซ์ S, M, L หรือ เล็ก กลาง ใหญ่ ดังนั้น การติดฟิล์มรถยนต์ราคาจึงต่างกันออกไปตามไซซ์รถและกระจกรถเช่นกัน เช่น หากเป็นรถกระบะ Cab ราคาค่าติดฟิล์มรถยนต์อาจเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็ก ขณะที่รถยนต์ขนาดกลางและขนาดใหญ่จะมีราคาสูงขึ้นตามกันไปเป็นลำดับ และราคาแพงที่สุดคือรถ SUV ซึ่งส่วนมากมักออกแบบให้มีกระจกบานใหญ่  

ตำแหน่งการติดฟิล์มรถยนต์ ส่งผลต่อราคา

เพราะอันที่จริงเราสามารถเลือกได้ว่าจะติดฟิล์มรถยนต์รุ่นไหนเฉพาะบานไหน บางทีคุณอาจจะอยากเน้นการปกป้องเป็นพิเศษเฉพาะบานหน้าเพื่อทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดีที่สุด หรือเฉพาะรอบคันที่อยากป้องกันรังสีและความร้อนเป็นพิเศษสุด ๆ เปอร์เซ็นต์สูง ๆ ยกเว้นบานหน้าที่อยากได้เปอร์เซ็นต์ความมืดที่ไม่เข้มมาก เพื่อไม่ให้ทัศนวิสัยมืดเกินไป เป็นต้น ซึ่งหากติดฟิล์มเฉพาะบานหน้า โดยเป็นฟิล์มรุ่นท็อป ราคาอาจเริ่มต้นที่ 5,000 บาท หากติดรอบคันยกเว้นบานหน้า ราคาอาจไปถึงหมื่นต้น ๆ และหากติดรอบคันแบบเบ็ดเสร็จ ราคาก็อาจไปได้ถึงหมื่นกลาง ๆ หรือหมื่นปลายแล้วแต่ขนาดของรถ 

ติดฟิล์มที่ Sunroof = ของที่จำเป็นต้องมี

รถยนต์บางรุ่นมีการออกแบบกระจก Sunroof เพิ่มเข้ามา ซึ่งเรียกว่าเป็นตำแหน่งที่รับแสงแดดลงมาในห้องโดยสารแบบตรง ๆ ในยามกลางวัน ดังนั้น การติดฟิล์มรถยนต์ที่หน้าต่าง Sunroof ด้วยจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็จะมีการบวกราคาเพิ่มเข้าไปอีก ซึ่งมีหลายเรต เพราะรถยนต์บางรุ่นออกแบบ Sunroof ที่กว้างและยาวมาก กินพื้นที่ตั้งแต่เบาะหน้าถึงเบาะหลังเลยทีเดียว ราคาจึงสูงตามไปด้วย

นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว คุณลองพิจารณาให้ดีว่าร้านที่คุณจะไปติดฟิล์มนั้น เป็นร้านที่ได้คุณภาพมาตรฐานในการให้บริการหรือไม่ มีราคาโปรโมชันหรือไม่ มีการรับประกันคุณภาพฟิล์มกี่ปี ซึ่งโดยมากมักอยู่ที่ 7 ปี และคิดค่าบริการลอกฟิล์มเก่าออกหรือไม่ ซึ่งส่วนมากมักไม่คิด ลองมองหาร้านที่มีรีวิวดีจากผู้ใช้บริการจริง และลองเปรียบเทียบราคาค่าบริการให้ครบถ้วน เพื่อเลือกบริการที่ดีที่สุด