เมื่อไต้หวันเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมในปี 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าประเทศเป็นจำนวนมากกว่า 5 หมื่นคน สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะนโยบายฟรีวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย 14 วัน และขั้นตอนการเข้าไต้หวันที่สะดวกสบาย ไม่จำเป็นต้องยื่นวัคซีนพาสปอร์ตหรือเอกสารอื่นใด ดังนั้นเมื่อไต้หวันพร้อมรับนักท่องเที่ยวจึงได้ออกแคมเปญ “The Challenge of Unseen Taiwan” โดยร่วมกับพันธมิตร คือ เคทีซีในหมวดท่องเที่ยวและ KTC World Travel Service  และสายการบินต่างๆ นำเสนอการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ใน 4 มิติ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับนักเดินทาง โดยคาดว่าสิ้นปี 2566 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปไต้หวันไม่ต่ำกว่า 2 แสนคน

ท็อป 3 เมืองท่องเที่ยวปลอดภัย

นางสาวซินดี้ เฉิน ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมไหนก็ตาม ทั้งในเรื่องการเมืองก็ปลอดภัย ส่วนงอาชญกรในประเทศก็ต่ำ ซึ่งในเรื่องระบบของความปลอดภัย นี้เอง ดันให้ไต้หวันขึ้นเป็น ท็อป 3 ในหมวดที่ ว่า เป็นเมืองที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก

ขณะที่ปัญหาเกี่ยวกับบุคลากรด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไม่พอนั้น หลังจากสถานการณ์โควิดเป็นต้นมาทุกประเทศ จะพบปัญหาเหมือนกัน โดยที่ไต้หวันก็มีมาตรการของแต่ละสายการบินที่แก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ ทั้งดึงพนักงานเก่ากลับมาทำงานเหมือนเดิม ให้ทำงานเต็มที่ และในอนาคตถ้ามีนักท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะผลักดันปัญหาเกี่ยวกับการบริการนักท่องเที่ยวจัดทำเป็นวาระแห่งชาติ

มุ่งโปรโมทไต้หวันทางตอนใต้

ซึ่ง นางสาวซินดี้ กล่าวถึงแคมเปญ The Challenge of Unseen Taiwan ที่มุ่งโปรโมทไต้หวันตอนใต้ ว่า แบ่งได้เป็น 2 ประเด็นด้วยกัน คือ 1.ช่วงก่อนโควิดเวลาคนไทยไปเที่ยวไต้หวัน ส่วนใหญ่จะไปเที่ยวไทเป ซึ่งทางการท่องเที่ยวเล็งเห็น ว่า ประเทศยังมีสถานที่อื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ ดังนั้นหลังโควิดมา จึงปรับแนวทางไปโปรโมททางตอนใต้ให้มากขึ้น และเพิ่มความถี่ของสายการบิน เพื่อให้คนเดินทางได้สะดวกสบาย ส่วน 2.เวลานี้การไปเที่ยวทางตอนใต้ของไต้หวันมีสายการบินไปยังเมืองเกาสงถึง 2 สายการบิน คือ ไชน่า แอร์ไลน์ และไทยไลอ้อนแอร์ สามารถเดินทางได้สะดวกสบายมากขึ้น

โดยตั้งเป้ากับแคมเปญนี้ในช่วงเวลา 6 เดือนน่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 5 พันคน จากราคาทัวร์เริ่มที่ประมาณ  25,000บาทต่อคนต่อทริปในระยะเวลา 3 คืน 4 วัน ขณะที่ในช่วงเปิดประเทศมา 4 เดือน โดยมีข้อมูลนับตั้งเดือนตุลาคม ถึงเดือนพฤศจิกายน มีนักท่องเที่ยวประมาณ 50,000 คนและเป็นคนไทยทั้งหมด

สัมผัสบรรยากาศแบบสโลวไลฟ์

อย่างไรก็ตาม นางสาวซินดี้ กล่าวต่อว่า ทางภาคใต้ของไต้หวันประกอบไปด้วยเมืองเกาสง เจียอี้ ไถหนาน และผิงตง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่วิถีชีวิตของคนที่อาศัย มีรูปแบบสโลวไลฟ์ อากาศที่แจ่มใส (ฝนตกน้อยกว่าทางภาคเหนือ) วัฒนธรรมที่ยังหลงเหลือกลิ่นอายญี่ปุ่นเอาไว้ โดยแต่ละเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เชิงศิลปะ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสมากมาย ซึ่งการเดินทางที่สะดวกขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวไทยสามารถเลือกเดินทางโดยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ หรือไทยไลอ้อนแอร์ บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังเมืองเกาสงได้เลย

พร้อมกันนี้ นางสาวซินดี้ กล่าวว่า แคมเปญที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถไปจับจองได้ภายในงานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลกครั้งที่ 28 หรือ TITF ที่กำลังจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บูธการท่องเที่ยวไต้หวัน โดยมีการจัดเตรียมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมโปรโมชั่นมากมาย ได้แก่ รับร่มลาย OhBear หรือการ์ดเปิดขวดลาย Limited Edition เมื่อจองแพ็กเกจทัวร์ไต้หวันกับบริษัททัวร์ที่มาออกบูธในงาน,นักท่องเที่ยวอิสระ (Free Independent Traveler) แสดงหลักฐานการเดินทางไปไต้หวัน (ตั๋วเครื่องบิน + จองที่พัก) แลกรับคูปองผลไม้ และ Voucher MRT Taoyuan to Taipei (1 รอบ),กิจกรรม DIY อาทิ เพนท์เล็บลาย Exclusive OhBear / พับโคมไฟกระดาษต้อนรับปีกระต่าย / โคมไฟผ้าตามประเพณีไต้หวัน รวมถึงข้อมูลการท่องเที่ยวจากหน่วยงานไต้หวัน

ขณะที่สมาชิกบัตรเคทีซีสามารถรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 2,200 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านร้านค้าหรือเว็บไซต์พันธมิตรที่ร่วมรายการ รวมถึงสิทธิพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย