เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 29 ก.ค. 59 ร.ต.อ.วิชิต ผังคี รอง สว.สอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีรถยนต์แท็กซี่ เฉี่ยวชนรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตนั้นยังติดอยู่ใต้ท้องรถ เหตุเกิดภายในอุโมงค์ลอดแยกปากเกร็ด ถนนติวานนท์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นจึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์แท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน ทษ 7676 กทม จอดหยุดนิ่งอยู่ก่อนขึ้นอุโมงค์ โดยมีนายวิทยา จินดาศิริพงศ์ อายุ 34 ปีเป็นผู้ขับขี่ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนใต้ท้องรถยนต์แท็กซี่นั้นพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายทราบชื่อคือน.ส.จิรภา ลิยี่เก อายุ 18 ปีอยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 2 ต.ทัพเสด็จ อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว สภาพยังถูกรถยนต์แท็กซี่ทับอยู่ และห่างไปประมาณ 20 เมตรพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอ็ม สแลซ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 5กจ 2340 กทม ล้มคว่ำอยู่กลางถนน และอีก 1 คันเป็น ฮอนด้า รุ่น เอ็ม เอส เอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดผ่านป้ายทะเบียน ซึ่งผู้ขับขี่รถทั้ง 2 คันได้รับบาดเจ็บรวม 3 คนถูกนำตัวส่งไปรักษาที่ ร.พ.ชลประทาน ปากเกร็ด และร.พ.มงกุฏวัฒนะ โดยทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ซ้อนท้ายมากับรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า นายวิทยา ฯผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่เปิดเผยว่าในขณะที่รับผู้โดยสารเพื่อไปส่งบริเวณปากซอยสามัคคี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ลงอุโมงค์ ซึ่งได้วิ่งในช่องทางขวา จู่ๆพบกลุ่ม จยย.จำนวน 2-3 คันวิ่งย้อนศรลงมาในช่องทางเดียวกันกับที่ตนเองนั้นขับอยู่ จึงพยายามเบรครถและหักหลบ แต่กลุ่ม จยย.นั้นเกิดเสียหลักเกี่ยวกันเองก่อนที่จะล้มลง จึงทำให้หญิงสาวที่ซ้อนมานั้นกระเด็นมาที่หน้ารถของตนจนทำให้ชนและทับซ้ำจนเสียชีวิต น.ส.นภาพร พรประสพ อายุ 18 ปีเพื่อนผู้เสียชีวิตเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตนเองและเพื่อนที่ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอ็ม สแลซ มาด้วยกัน 2 คันเพื่อไปหาทานข้าวขณะที่ขับขี่มาถึงปากทางอุโมงค์ พบเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจ (ด่าน) อยู่บริเวณใกล้ปากทางอุโมงค์ จึงได้จอดรถก่อนถึงจุดตรวจและมีการพูดคุย ซึ่งตนเองแนะนำให้ขับขี่มุ่งหน้าเข้าไปที่ด่านตามปรกติ แต่เพื่อนนั้นตัดสินใจไม่ยอมผ่านด่านตรวจหักเลี้ยวย้อนศรลงอุโมงค์ โดยขณะนั้นมีรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เอ็ม เอส เอ็กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งไม่รู้จักกัน ที่พบเห็นด่านได้ขับขี่หลบด่านตรวจด้วยการย้อนศรไปก่อนล้วงหน้าและเพื่อนนั้นขี่ติดตามกันไป ซึ่งเป็นจังหวะที่มีรถยนต์แท็กซี่ที่วิ่งลงอุโมงค์มา จนทำให้รถ จยย.ทั้ง 2 คันเกิดตกใจและเสียหลักเกี่ยวกันล้มจนทำให้ น.ส.จิรภา ฯ ที่เป็นผู้ซ้อนท้ายนั้นกระเด็นมากลางถนน และถูกรถยนต์แท็กซี่คันดังกล่าวชนและทับลากร่างไปไกลกว่า 20 เมตร ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าในเบื้องต้นได้ทำการบันทึกภาพที่เกิดเหตุพร้อมกับสอบปากคำผู้ขับขี่รถยนต์แท็กซี่รวมถึงเพื่อนผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์ สันนิษฐานว่ากลุ่มรถ จยย.ที่เป็นผู้บาดเจ็บและผู้ตายนั้น พบเห็นจุดตรวจและเกิดเกรงกลัวจึงทำให้กลุ่มรถ จยย.นั้นตัดสินใจขับขี่ย้อนศรลงอุโมงค์ จึงเป็นเหตุให้ถูกรถยนต์แท็กซี่ที่ขับมาตามเส้นทางตามปรกติ พุ่งชนจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามจะต้องทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในอุโมงค์อีกครั้ง จากนั้นจึงได้มอบผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป