วันที่ 18 ต.ค.59 ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ต.ณัฐพล รัตนมงคลศักดิ์ สว.กก.1บก.ป. ร.ต.อ.ฐิติวัสส์ แซมเขียวรองสว.กก.1บก.ป.ร.ต.ท.ณรงเวทย์ จิวเดช รอง สว.กก.1บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐอเมริกา กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา (US.Secret Service) จับกุม เรืออากาศตรี บุญเชิด กฤษวงศ์ ทหารสังกัดกรมสื่อสารทหารอากาศ อายุ49 ปี ที่อยู่ 45/2/4 ซอยพหลโยธิน 54/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม ,นายธนะกิจ ขาวเป็นใย อายุ 46 ปี ที่อยู่ 48/79 ซอยหทัยราษฎร์ 39 แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา ,นายชัยณรงค์ ศรีโยธา อายุ 55 ปี ที่อยู่ 9/277 หมู่ 2 ต. คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และนางสาวชลมาศ อุสุภานนท์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 34 ซอยวิชิรธรรมสาธิต 76 แขวงบางจาก เขตพระโขนง พร้อมธนบัตรดอลล่าร์ปลอมชนิด 100 ดอลล่าร์สหรัฐ จำนวน 2,100 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 8 ล้านบาท ห่อหุ่มด้วยกระดาษสีน้ำตาลอยู่ภายในถุงพลาสติกสีขาว,อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .38 ซูปเปอร์ ทะเบียน กท-2304085 จำนวน 1 กระบอก,เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 ซูปเปอร์ จำนวน 17 นัด ,โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง ,สมุดบัญชีเงินฝากประเภทออมทรัพย์ จำนวน 8 เล่ม,เช็คเงินสดธนาคารกรุงเทพ จำนวน 1 ฉบับ,รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน กฐ-1075 กทม จำนวน 1 คัน โดยจับกุมได้ที่ร้านแม็คโดนัล บิ๊กซีสาขาสายไหม ถ.สุขาภิบาล 5 แขวง-เขตสายไหม กทม. ี่ ทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจลับสหรัฐอเมริกาว่ามีการตรวจพบธนบัตรดอลล่าร์ปลอมแพร่กระจายจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบโดยละเอียด เชื่อว่าขบวนการปลอมแปลงและค้าน่าจะอยู่ในประเทศไทย ชุดสืบสวนลงพื้นที่จนพบว่า มีขบวนการลักลอบค้าธนบัตรดอลล่าร์ปลอมอยู่ในย่านสายไหม กรุงเทพฯ จากนั้นจึงวางแผนเจรจาสั่งซื้อเงินดอลล่าร์ปลอม โดยตกลงซื้อขายธนบัตรดอลลาร์ปลอมฉบับละ 100 ดอลล่าร์ ในราคาฉบับละ 1,300 บาท (ซึ่งหากเป็นเงินจริง จะมีราคาค่าเงินจริงประมาณ 3,500บาท ) สั่งซื้อจำนวน 7,000ฉบับ ก่อนที่วันที่ 15 ตุลาคม เวลาประมาณ 18.00 น. จะนัดหมายตรวจธนบัตรดอลลาร์ปลอมที่ร้านแม็คโดนัล บิ๊กซีสาขาสายไหม ถ.สุขาภิบาล 5 แขวง-เขตสายไหม กทม. เมื่อถึงเวลานัดหมายได้มีนายธนะกิจ หรือเล็ก (ผู้ต้องหาที่ 2) มาพร้อมกับนายบรรจง (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) เพื่อขอตรวจสอบเงินที่จะใช้ล่อซื้อจากเจ้าหน้าที่อำพราง ก่อนจะแจ้งให้รอที่จุดนัดหมาย และนายธนะกิจจะกลับไปนำเงินดอลล่าร์ปลอมมาให้ตรวจสอบ โดยจะนำมาเพียง 2,100 ฉบับ เพื่อให้ตรวจสอบว่ามีของจริงเท่านั้น ซึ่งในขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดจอดรถซุ่มดูการซื้อขายอยู่ตลอด กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. เรืออากาศตรีบุญเชิด (ผู้ต้องหาที่ 1) ได้เดินทางเข้ามาบริเวณลานจอดรถของบิ๊กซีสาขาสายไหม พร้อมกับนายชัยณรงค์ หรือแอ๊ด( ผู้ต้องหาที่ 3) โดยรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า (ของกลาง)และทำหน้าที่คุ้มกันเงินดอลล่าห์ปลอม จากนั้นนายธนะกิจ กลับมาอีกครั้งพร้อมกับน.ส.ชลมาศ ( ผู้ต้องหาที่ 4 )โดย น.ส.ชลมาศฯ เป็นผู้ถือถุงธนบัตรดอลล่าร์ปลอมมาให้เจ้าหน้าที่อำพรางและเมื่อตรวจสอบแล้วเป็นเงินดอลล่าร์ปลอมตามที่สั่งซื้อจริง ชุดจับกุมจึงเข้าแสดงตัว พร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะที่นายบรรจงอาศัยจังหวะชุลมุนลักลแบหนีไปได้ ตรวจสอบพบธนบัตรดอลล่าร์ปลอมจำนวน 2,100 ฉบับซุกซ่อนอยู่ภายในซองกระดาษสีน้ำตาลบรรจุในถุงพลาสติกที่ส่งมอบในการซื้อขาย และตรวจค้นรถคันที่เรืออากาศตรีบุญเชิด ขัยมาพบปืนและเครื่องกระสุนอยู่ภายใน จึงยึดไว้ตรวจสอบ จากการสอบถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า พวกตนร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยจะสั่งซื้อเงินปลอมจากนายหน้าทั้งคนไทย และคนลาว และสั่งมาจากฝั่งประเทศลาวผ่านมาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เพราะจากการสืบสวนพบว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะสามารถเข้าถึงแหล่งผลิตเงินปลอมได้โดยไม่ต้องผ่านนายหน้าตามที่กล่าวอ้าง เชื่อว่าเงินปลอมดังกล่าวน่าจะเเพร่ระบาดแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยอีกด้วย อย่างไรก็ดีจากการสืบสวนเชิงลึกยังพบอีกว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมเชื่อมโยงกับขบวนการปลอมแบงค์ดอลล่าห์ที่เพิ่งถูกตำรวจกก.2บก.ป.จับกุมที่ห้องแถวเลขที่ 18/305 ถ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาอีกด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผล เบื้องต้นแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง4 รายว่า "ร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศ อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือของแปลง โดยการกระทำเกี่ยวกับเงินตรา ธนบัตรหรือสิ่งอื่นใด ซึ่งรัฐบาลต่างประเทศออกใช้ หรือให้อำนาจออกใช้" ขณะที่เรืออากาศตรี บุญเชิด แจ้งข้อหา "พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร" เพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1บก.ป.ดำเนินคดีต่อไป