ด้วยนักท่องเที่ยวจีนยังคงเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวและการพักผ่อน จึงทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินการส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ประเทศไทยตามแนวคิด Amazing Thailand, Amazing New Chapters  เพื่อพลิกฟื้น ภาคการท่องเที่ยวไทยทั้งระบบอย่างสมดุลในทุกมิติ เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้แก่นักท่องเที่ยว

ททท.ร่วมงานกับพันธมิตรท่องเที่ยว

โดย นายยุทธศักดิ์  สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่าการสร้างความเชื่อมั่น และตอกย้ำว่าประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวที่อยู่ในใจของนักท่องเที่ยวชาวจีน และยังสามารถส่งมอบความสุข สนุกสนาน ในทุก ๆ ครั้งที่มาเยือน โดย ททท. จะร่วมทำงานกับพันธมิตรทางการท่องเที่ยวทั้งออนไลน์ และ ออฟไลน์ ที่ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศจีนอย่างใกล้ชิด เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ และมีความหลากหลาย เพื่อสร้างความพิเศษและแตกต่าง ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบัน อาทิ กลุ่ม Hyper Millennial/กลุ่ม Family/กลุ่ม Workation/กลุ่ม Silver Luxury เป็นต้น

สำหรับ การจัดงาน Amazing Thailand Amazing New Chapters Road Show to China 2023 มีกำหนดขึ้นในวันที่ 20 , 22 และ 24 กุมภาพันธ์ 2566 ณ นครเซี่ยงไฮ้ นครเฉิงตู และนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ตามลำดับ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มโอกาสในการเจรจาธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทย กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของจีนโดยตรง อันจะส่งผลให้เกิดการซื้อขายสินค้าทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าทางการท่องเที่ยวของประเทศไทย

ซึ่งคาดว่าผลจากการจัดงานครั้งนี้จะนำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจ กระตุ้นรายได้จากภาคการท่องเที่ยวและบริการระหว่างกัน ซึ่งถือเป็นความท้าทายของ ททท. ในปีนี้ จากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวน ทั้งสิ้น 161,540 คน โดยตั้งแต่เดือนมกราคม –เดือนมีนาคม 2566 มีจำนวนเที่ยวบินและที่นั่ง (Seat Capacity) จากท่าอากาศยานในเมืองต่างๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีนมายังประเทศไทย อาทิ เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว หางโจว หนานจิง เฉิงตู  เซี่ยะเหมิน คุนหมิง เป็นต้น รวมทั้งสิ้น 2,000 เที่ยวบิน จำนวน 445,655 ที่นั่ง และ คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยในไตรมาสแรก (เดือนมกราคม-มีนาคม 2566) จำนวน 300,000 คน โดยงคิดเป็นอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวอย่างค่อยเป็นค่อยไป สะท้อนสัญญาณที่ดีที่จะมีการเดินทางมาประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดปี และช่วยผลักดันจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนแตะ 5 ล้านคน ตามเป้าหมายในปี 2566

ควรเร่งเพิ่มจำนวนเที่ยวบินรองรับ

ด้าน นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า หลังจากจีนได้อนุญาตให้ทำทัวร์ชาวจีนออกเที่ยวต่างประเทศได้มากขึ้นนั้น เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจีนเดินทางในรูปแบบเอฟไอที (เดินทางด้วยตัวเอง) เป็นหลัก ส่วนกรุ๊ปทัวร์ยังไม่เห็นมากนัก เนื่องจากเที่ยวบินยังไม่พร้อมรองรับ โดยตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวไทยยังมีไม่มากนัก แต่ถือว่ามีการฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง  

ขณะที่แนวโน้มในเดือนมีนาคมนี้ ถ้าหากมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากตลาดจีนเข้ามาเที่ยวไทยได้มากขึ้น ก็จะสนับสนุนให้กรุ๊ปทัวร์เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นได้ตาม เนื่องจากตอนนี้จีนมีความต้องการ เข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น แต่จำนวนเที่ยวบินยังไม่พร้อมรองรับ จึงทำให้ยังไม่เห็นยอดจองล่วงหน้าของเดือนมีนาคม-เมษายนมากนัก แม้เป็นช่วงเดือนที่มีเทศกาลวันสงกรานต์ก็ตาม

ส่วน นายโอลิเวียร์ แบริแวง  รองประธานเวิลด์ โฮเทล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ในภูมิภาคนี้ฟื้นตัวช้าที่สุดเพราะฉะนั้นรายได้ปีที่ผ่านมามีสัดส่วนที่น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับทางยุโรป และอเมริกา เนื่องจากทั้ง2โซนดังกล่าวฟื้นตัวได้เร็ว อีกทั้งยังมีจำนวนโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้เวิลด์ โฮเทลมากกว่า เพราะฉะนั้นรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนของจำนวนโรงแรม แต่ทั้งนี้รายได้ในปี 2566 น่าจะเพิ่มขึ้นที่ 20%

ทั้งนี้กลยุทธ์ที่จะผลักดันให้เกิดรายได้ โดยมุ่งเน้นที่ตลาดชาวจีนนั้นก็ต้องยอมรับ ว่า ในเวลานี้ยังบอกภาพที่ชัดเจนไม่ได้ว่า จะกลับมาพร้อมเมื่อไร เพราะปัจจัยหลักอยู่ที่รัฐบาลของประเทศจีน ในการที่จะปฏิสัมพันธ์กับประเทศนานาชาติอย่างไร  โดยเวลานี้  เวิลด์ โฮเทล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีประมาณ 50 แห่ง ซึ่งจำนวน 21 โรงแรมอยู่ที่ประเทศจีน ถือว่ามีจำนวนมากที่สุด และนักท่องเที่ยวในตลาดช่วงนี้จะเป็นกลุ่มตลาดประชุม คอร์เปอเรท เป็นกลุ่มลูกค้าที่เดินทางมาเพื่อธุรกิจ กลุ่มอินเซ็นทีฟ เป็นต้น