สัปดาห์พระเครื่อง/ราม วัชรประดิษฐ์

เหรียญหลวงปู่ไข่ เป็นเหรียญที่แพงที่สุดในบรรดาเหรียญพระสงฆ์ทั้งหมด และก็ไม่ได้จัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเหรียญพระสงฆ์ด้วย นับเป็นเหรียญพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับความนิยมเทียบเท่า หรือสูงกว่าเหรียญเบญจภาคีพระสงฆ์ที่เคยจัดลำดับไว้ในอดีต เช่น เหรียญหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ฉะเชิงเทรา เหรียญหลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม ฉะเชิงเทรา เหรียญหลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ เหรียญหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ และเหรียญสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) วัดเทพศิรินทราวาส เป็นต้น

ประวัติหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน

หลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดเชิงเลน หรือ “วัดตีนเลน” หรือที่ปัจจุบันชื่อ “วัดบพิตรพิมุข” หนึ่งในห้าพระเกจิผู้มีวิชาอาคมเข้มขลังแห่งภาคตะวันออก ศิษย์หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ จ.ฉะเชิงเทรา แต่มาโด่งดังในกรุงเทพฯ ท่านเป็นพระวิปัสสนาที่มีชื่อเสียงและมีคุณธรรมสูง วัตถุมงคลที่ท่านสร้าง ทั้ง พระเครื่อง เหรียญ และเครื่องรางของขลัง ล้วนมีชื่อเสียงเป็นที่ศรัทธาและนิยมสะสมกันอย่างกว้างขวาง เพราะมากด้วยพุทธคุณครบครันเป็นที่ปรากฏ ที่ได้รับความนิยมสูงมีด้วยกัน 3 ชนิดใหญ่ๆ คือ พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก เหรียญรูปไข่ และพระอรหังกลีบบัว โดยเฉพาะ “พระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก” นั้น ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเบญจภาคีพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ที่นับว่าหาได้ยากยิ่ง                                                                                               

หลวงปู่ไข่ เป็นชาวแปดริ้วโดยกำเนิด เกิดที่ ต.ท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2400 ตอนเด็กบิดาได้นำไปฝากเป็นศิษย์หลวงพ่อปาน วัดโสธร ต่อมาบวชเป็นสามเณรศึกษาวิทยาการต่างๆ นอกจากนี้ยังหัดเทศน์จนมีชื่อเสียงในทางเทศน์มหาชาติอีกด้วย สามเณรไข่ได้มีโอกาสศึกษารํ่าเรียนกับพระอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ, พระอาจารย์จวง วัดน้อย จ.ชลบุรี และ พระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน จ.สมุทรสงคราม จนอายุครบบวชจึงอุปสมบทที่วัดลัดด่าน โดยมี พระอาจารย์เนตร วัดบ้านแหลม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน เป็นกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์ภู่ วัดบางกะพ้อม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากศึกษาพระปริยัติธรรมได้ระยะหนึ่งก็กราบลาพระอาจารย์ ออกธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ ศึกษาด้านกรรมฐานและวิปัสสนา รวมทั้งวิทยาอาคมซึ่งมีความสนใจเป็นส่วนตัวกับพระเกจิผู้เข้มขลังหลายรูป

เกียรติคุณของท่านดังไปถึงกรุงเทพฯ จึงมีผู้ไปนิมนต์ท่านไปจำพรรษาที่วัดบางยี่เรือ ฝั่งธนบุรี อยู่ 1 พรรษา แล้วท่านก็ออกธุดงค์ในป่าอีกหลายปี จนสุดท้ายเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ และเห็นว่าที่วัดเชิงเลนเป็นสถานที่มีความสงบเงียบ คงไม่มีใครรบกวนมากนัก จึงอยู่จำพรรษาตลอดมา แต่เพียงชั่วเวลา 7-8 ปี ให้หลัง กุฏิของหลวงปู่ไข่ก็เนืองแน่นไปด้วยชาวบ้านที่เลื่อมใสและบรรดาศิษยานุศิษย์มากมายแวะเวียนไปมาหาสู่มิได้ขาด ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2475 สิริอายุ 74 ปี 54 พรรษา  

ลักษณะของเหรียญหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน (วัดบพิตรภิมุข) กทม. เป็นเหรียญรูปไข่สร้างประมาณปี 2473 เนื่องในโอกาสฉลองอายุครบ 6 รอบ สันนิษฐานว่าสร้างไม่เกิน 70 เหรียญ เป็นเหรียญปั๊ม มีหูห่วงเชื่อม รุ่นแรก ของหลวงพ่อ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนของท่านนั่งขัดสมาธิ ครองจีวรเฉวียงบ่า พาดผ้าสังฆาฏิคาดรัดประคดอก ข้างบนมีตัวอักษรว่า "อินฺทสโรภิกขุ"ซึ่งเป็นฉายาของท่าน ด้านหลังเรียบบางองค์มีรอยจารอักขระยันต์ด้วยเหล็กแหลมพ่อ  พบมีจำนวนน้อยมาก หมุนเวียนในวงการพระเครื่องเพียงไม่กี่เหรียญและมูลค่าสูงกว่าเลข 7-8 หลักเลยทีเดียวเชียว

​​​​​​​

ทางด้านพุทธคุณเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าโดดเด่นในด้านเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรี มหาอุด และดีพร้อมไปเสียทุกอย่าง  “นับว่าเป็นเหรียญในตำนาน ใครได้ครอบครองถือว่า เป็นสุดยอดของนักสะสมเหรียญพระสงฆ์ในยุคนี้" เลยครับผม