วันที่ 20 ต.ค. 59 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเต็มที่สำหรับมาตรการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมลงนามแสดงความอาลัยเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระบรมมหาราชวัง ในวันที่ 28 ตุลาคม โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบเคารพพระบรมศพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังผู้บัญชาการกองทัพบก และกองทัพภาค 1 ช่วยจัดกำลังและอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชน ทั้งนี้ ด้านการข่าวทุกอย่างยังเป็นปกติ ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่ามาตรการดูแลความปลอดภัยประชาชนที่เดินทางเข้าร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณพระบรมมหาราชวัง ว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มกำลังดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มอัตรา โดยเฉพาะกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ 6 ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมสั่งการให้ตำรวจสันติบาล กองบังคับการสืบสวน นำกำลังมาช่วยเพิ่มเติม พร้อมจัดรถตู้รับส่งให้บริการประชาชนตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนที่สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพ โดยให้จัดจุดพักรถ จุดรวมกำลัง ไว้รองรับประชาชน อาทิ เส้นทางสายเหนือ บริเวณอิมแพ็คเมืองทองธานี และสโมสรตำรวจ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ อีสาน บริเวณบางนา ภาคตะวันตก เซ็นทรัลเวสต์เกต และเส้นทางจากภาคใต้ บริเวณพุทธมณฑล ส่วนรถตู้ของตำรวจนครบาล จะให้บริการรับส่งประชาชน 3 เส้นทาง คือ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้าห้างมาบุญคลอง และวงเวียนใหญ่ ตั้งแต่เวลา08.00 น. ถึง 16.00 น. โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กองบังคับการตำรวจน้ำ ได้จัดเรือข้ามฟากรับส่งบริการประชาชนบริเวณท่าเรือใกล้สนามหลวงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับประชาชนที่ต้องการเดินทางมายังพื้นที่รอบพระบรมมหาราชวัง สามารถโทรสอบถามเส้นทางได้ที่ สายด่วน บก.02 เบอร์ 1197, สายด่วนรับแจ้งเหตุ 191 ,และศูนย์ประชาบดี 1111 พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวถึงกรณี ความคืบหน้าการตรวจสอบเว็บหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ดำเนินการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานตำรวจสากลตรวจสอบเว็บไซต์ในต่างประเทศที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูง ขณะที่ความคืบหน้าในการติดตามตัว "อั้ม เนโกะ" และกลุ่มคนอื่น ๆ ที่โพสต์หมิ่นเบื้องสูง ได้ประสานติดตามตัวเพื่อขอส่งตัวมาดำเนินคดีในไทย แต่ยอมทำได้ยาก เนื่องจากติดข้อกฎหมาย และกลุ่มดังกล่าวรู้ว่าควรอยู่ที่ไหนถึงจะไม่ถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดี