ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์-อสส. นำ พนักงานอัยการ ร่วมพิธีรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช น้อมนำพระราชดำรัสด้านความยุติธรรมเป็นหลักปฏิบัติ ที่ลานเอนกประสงค์ ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ( อาคาร A ) ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ วันที่ 20 ต.ค.59 ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด นำคณะรองอัยการ อธิบดีอัยการ พนักงานอัยการ และข้าราชการสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร โดย ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด นำถวายเครื่องราชสักการะต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และกล่าวแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ว่า “ ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์สมบัติปกเกล้าปกกระหม่อม สร้างความร่มเย็นเป็นสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ตลอดพระชนม์ชีพ ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ให้มีความกินดีอยู่ดี โดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทั่วโลกได้ให้ความสำคัญ เป็นที่ประจักษ์าการพัฒนาที่ยั่งยืน ให้คนไทยมีความรัก ความสามัคคีอยู่ภายใต้หลักนิติธรรม มีการบังคับใช้กฎหมายที่เท่าเทียมและยุติธรรมเพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนเป็นไปโดยสงบสุข โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.55 พระองค์ได้พระราชทาน พระราชดำรัสแก่พนักงานอัยการ ในโอกาสที่อัยการสูงสุด ได้นำอัยการประจำกองสำนักงานรอัยการสูงสุด เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องประชุม สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงสงขลานราธิวาสราชนครินทร์ อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช ความว่า “ อัยการมีส่วนสำคัญในการสร้างความยุติธรรมของประเทศ ถ้ามีความยุติธรรมทำให้ประเทศอยู่เย็นเป็นสุขได้ แต่หากขาดความยุติธรรม ประเทศไม่มีทางที่จะดำเนินการไปโดยดี ” ซึ่งบรรดาข้าราชารฝ่ายอัยการ ตลอดตนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และพร้อมใจกันน้อมนำพระบรมราโชวาทดังกล่าวมาเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม นำมาใช้เป็นหลักปฏิบัติราชการ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐและอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินของพระองค์อย่างเสมอภาค จนเป็นที่เชื่อมั่นแก่ประชาชน สรรค์สร้างสังคมไทย ให้เป็นสังคมที่อยู่เย็นเป็นสุข เจริญรอยตามพระราชปณิธานของพระองค์ที่ได้ทรงพระราชทานแนวทางไว้ ให้คงอยู่สืบไป ” จากนั้น อัยการสูงสุด จึงเหล่าข้าราชการ สำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 9 นาที ถวายความอาลัยก่อนจะร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และทั้งหมดร่วมกันลงนามถวายความอาลัยในสมุดลงนาม พร้อมตั้งโต๊ะไว้ให้เหล่าข้าราชการและประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ได้ร่วมกันลงนามตลอดระยะเวลาการไว้ทุกข์ 1 ปี ภายหลังพิธีแสดงความอาลัย ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ อัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่า สำนักงานอัยการสูงสุดจะน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์ท่านในเรื่องด้านความยุติธรรม ที่พระราชทานแก่พนักงานอัยการความว่า ข้าราชการอัยการต้องมีความยุติธรรม และให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน สังคมหากขาดความยุติธรรม ประชาชนก็จะอยู่อย่างไม่ร่มเย็นเป็นสุข มาเป็นแนวนโยบาย และเป็นสิ่งที่จะต้องกำชับให้พนักงานอัยการทุกคนทั่วประเทศนำไปเป็นข้อปฏิบัติราชการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนและสังคมต่อไป ส่วนกิจกรรมรำลึกและเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาจัดอีกครั้งเป็นช่วงระยะเวลา โดยจะนำพระราชดำริของพระองค์ท่านในส่วนที่ประชาชนควรรู้และเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติจะมาดำเนินการจัดนิทรรศการ "การปฏิบัติหน้าที่พนักงานอัยการจะต้องยึดหลักสุจริต เป็นธรรม เที่ยงธรรม โดยนำแนวทางพระราชดำรัสที่ได้รับพระราชทานมาเป็นหลักปฏิบัติ นอกจากนั้นแนวทางพระบรมราชาโอวาทที่เกี่ยวข้องกับงานของอัยการก็จะน้อมนำมาปฏิบัติเช่นกัน