วันที่ 21 ต.ค.59 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานชมรมนักรบไซเบอร์ FightBadWeb โพสต์เฟสบุคตอบโต้ประธานกรรมการสิทธิมุษยชนแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจากกรณีที่ให้น้ำหนักในการปกป้องสิทธิมนุษยชนของคนที่จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันมากจนเกินควรทำให้เกิดความได้ใจ ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถที่จะสกัดกั้นและปกป้องสถาบันสำคัญของชาติได้ โดยเฉพาะยุคนี้ในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารด้านดิจิตอลหรือโซเชียลเน็ตเวิร์คกำลังเบ่งบาน นางมัลลิกา กล่าวว่า การที่ทุกฝ่ายใช้ข้อบังคับของกฎหมายมาติงเตือนห้ามปรามแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริง ว่าการด่า-การทำร้ายคนที่แสดงออกไม่เหมาะสมนั้นเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน แนะควรให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แต่นักสิทธิมนุษยชนคงลืมไปว่าสังคมใดๆก็ตามสามารถที่จะใช้มาตรการทางสังคมให้สติเตือน ห้ามปรามพูดคุย เจรจากันเองได้เช่นกัน จึงสงสัยนักว่ากฎของสิทธิมนุษยชนของพวกคุณนั้นมันคุ้มครองสถาบันกษัตริย์ด้วยได้ไหม กษัตริย์ก็เป็นมนุษย์ เป็นบุคคลภายใต้กฎหมายที่ควรจะได้รับการคุ้มครองเช่นกัน "สิทธิมนุษยชน ก็สิทธิของคนทุกคนเหมือนกัน แต่แล้วทำไมเอากฎนี้ไปใช้คุ้มครองคนละเมิดกฎหมาย คนอันตรายที่คิดร้าย คนที่ทำลายศูนย์รวมใจคนไทย และคนทำผิดกฎหมายความมั่นคงของชาติ คนบั่นทอน ต้องการล้มสถาบันชาติสำหรับประชาชน สังคมติงเตือนกัน สังคมแซงชั่นเป็นมาตรการของคนอยู่ร่วมกัน และหากผู้ใดกระทำผิดกฎหมายใดๆ เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายนั้นๆ เช่น ถ้าด่ารุนแรงถึงขั้นหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ก็ดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท ถ้าโมโหถึงขั้นตบไปก็ปรับ 500 บาท ถ้าถึงขั้นโมโหจัดมากเกิดการชกต่อยก็ข้อหาหนักขึ้นมาหน่อยคือทะเลาะวิวาท" นางมัลลิกา กล่าว รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า อย่าเพียงแต่มาเตือนฝ่ายที่ปกป้องสถาบันด้วยหัวใจที่บอบช้ำเท่านั้น แต่ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจหน้าที่ทั้งรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงดิจิตอลฯ ควรใช้กฎหมายที่อ้างนั้นสั่งสอนคนทำผิดกฎหมาย คนที่ล่วงละเมิด จาบจ้วง ดูหมิ่นบุคคลสำคัญอันเป็นศูนย์รวมจิตใจที่ไม่สามารถมาปกป้ององค์เองได้แล้ว