หลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.ได้เดินหน้าขับเคลื่อนสู่องค์กรประสิทธิภาพสูง ทบทวนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษ ให้ตอบโจทย์การจัดตั้งองค์กร ทำงานมุ่งเป้า เกิดผลสัมฤทธ์เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น เน้นโครงการเร่งด่วน Big Rock ที่นำไปสู่การลงทุนที่เกิดผลกระทบสูงทางเศรษฐกิจของพื้นที่พิเศษ หวังใช้กลไกการท่องเที่ยวกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ เดินหน้าพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานสากล ปักธงปี 2566 ศึกษาศักยภาพเตรียมประกาศพื้นที่พิเศษอีก 2 แห่ง คลองท่อม จ.กระบี่ - เกาะคอเขา จ.พังงา 

ดำเนินแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี

ทั้งนี้ นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. กล่าวว่า ปี 2566 อพท. ตั้งเป้าหมายดำเนินการใน 2 ภารกิจสำคัญ ได้แก่ ภารกิจหลัก มุ่งขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน  พร้อมดำเนินการตามแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี (ปี พ.ศ. 2566 – 2570) มุ่งการให้ความรู้ความเข้าใจกับทุกภาคส่วนเกี่ยวกับเครื่องมือในการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนของ อพท. ทั้งหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (GSTC) เครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ขององค์กรยูเนสโก (UCCN) การท่องเที่ยวโดยชุมชน (CBT) และโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG)  รวมถึงการดำเนินการตามตัวชี้วัดของสำนักงาน ก.พ.ร. 

สำหรับภารกิจเร่งด่วน นาวาอากาศเอก อธิคุณ  กล่าวว่า จะให้ความสำคัญกับโครงการ Big Rock ที่มีความจำเป็นเร่งด่วน การทบทวนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (รายพื้นที่) ให้มีเป้าหมายสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการประกาศพื้นที่พิเศษ แผนงานโครงการภายใต้ยุทธศาสตร์พื้นที่ต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมาย เน้นการลงทุนที่ที่เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจของพื้นที่ในระดับสูง บนพื้นฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมพื้นที่ที่ผ่านการพัฒนาจาก อพท. ให้ได้รับรางวัลหรือมาตรฐานระดับนานาชาติ อาทิ แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษฯ ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา นอกจากนั้น ยังได้เตรียมการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อพท. ให้เหมาะสมตามบริบทในการดำเนินงานของ อพท. ในปัจจุบัน และเพิ่มอำนาจในการบูรณาการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประสาน ส่งเสริม สนับสนุนให้มากยิ่งขึ้น เตรียมศึกษาศักยภาพพื้นที่เพื่อประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และการหารายได้เพิ่มเติมจากทรัพย์สินและกิจกรรมสำคัญของ อพท.

เน้นโครงการเร่งด่วนดึงการลงทุน

ซึ่งโครงการ Big Rock ดังกล่าว ทาง อพท.ได้ให้ความสำคัญกับโครงการที่จะขับเคลื่อนให้เกิดผลสัมฤทธิ์ด้านเศรษฐกิจในระดับที่มีผลกระทบ (Impact) เกิดการจ้างงาน และกระจายรายได้อย่างยั่งยืน จัดทำโครงการที่จะทำให้มีรายได้กลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพื่อนำไปเพิ่มในส่วนของงบพัฒนาของ อพท. ซึ่งเป็นโครงการที่ได้บรรจุไว้ในแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ เพื่อเน้นย้ำความสำคัญของแผนระดับ 3 ของ อพท. ตามบทบาทภารกิจขององค์กร เช่น โครงการก่อสร้างศูนย์แห่งความเป็นเลิศและแหล่งเรียนรู้ด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (ศูนย์ท่าโสม) การพัฒนาท่าเทียบเรือสลักเพชร จังหวัดตราด ศูนย์เรียนรู้และแสดงผลงานสร้างสรรค์ จังหวัดสุโขทัย และ Co-working Space/Creative Space จังหวัดเลย เป็นต้น

ทบทวนแผนยุทธศาสตร์ในพื้นที่

พร้อมกันนี้ นาวาอากาศเอก อธิคุณ ยังกล่าวต่อว่า จะมีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (รายพื้นที่) ให้สามารถเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่และส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยแผนยุทธศาสตร์ฯ ต้องสามารถเป็นกรอบบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้อย่างแท้จริง รวมถึงการส่งเสริมพื้นที่ที่ อพท. ดำเนินการพัฒนาแล้วเข้าสู่การประกวด เพื่อสร้างการยอมรับในระดับนานาชาติ

โดยปี พ.ศ. 2566 เตรียมร่วมกับหน่วยงานและภาคีเครือข่าย ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาเพื่อรับรางวัลหรือมาตรฐานระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงการเตรียมศึกษาศักยภาพพื้นที่เพื่อประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ อีก 2 แห่ง คือ พื้นที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และพื้นที่เกาะคอเขา จังหวัดพังงา

“เน้นทำความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของ อพท. ทั้งระดับชุมชน และภาคีเครือข่าย เพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานของ อพท. ให้เข้าใจเป้าหมายการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน ที่มีส่วนสำคัญต่อการเข้าไปส่งเสริม การเป็นพี่เลี้ยง เพื่อให้พื้นที่อยู่ได้และขยายผลไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เป็นพื้นที่เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานสากล ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ อพท.” นาวาอากาศเอก อธิคุณ กล่าว

ผู้อำนวยการ อพท. ยังได้กล่าวว่า ปี 2566 อพท. จะครบรอบก่อตั้งองค์กร 20 ปีเต็ม และกำลังก้าวสู่ทศวรรษที่ 3 ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานของ อพท. มีความคล่องตัวและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงได้เตรียมขอแก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง อพท. โดยจะพิจารณาอำนาจในการเสนอเรื่องการประกาศพื้นที่พิเศษตลอดจนการเสนอแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ฯ ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาภายหลังคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบแล้ว

รวมถึงปรับปรุงนิยามของ “พื้นที่พิเศษ” ให้เหมาะสมตามบริบทในการดำเนินงานของ อพท. ในปัจจุบัน เพิ่มอำนาจและประสิทธิภาพในการบูรณาการในการประสาน ส่งเสริม สนับสนุนให้มากยิ่งขึ้น และมุ่งพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ พัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงคุณภาพบนหลักการแห่งความยั่งยืน เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้ครอบคลุมถึงชุมชนท้องถิ่นที่เป็นเศรษฐกิจฐานราก