เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 24 ต.ค.59 พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ รรท.ผบก.สส.บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผกก.กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 เจ้าหน้าที่ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.2 และฝ่ายสืบสวนสน.โชคชัย ร่วมกันจับกุมนายจักรพลหรือยุทธ หลักทอง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 2 ต.นาเลิง อ.ม่วงสามสิบ จ. อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2089/2559 ลงวันที่ 20 ต.ค.59 ในฐานความผิดข้อหา "ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืนฯ ,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองและไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืน" พร้อมของกลางหมวกกันน็อคเต็มใบสีดำจำนวน 1 ใบ รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ110ไอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจำนวน 1 คัน และอุปกรณ์งัดแงะจำนวน 1 ชุด โดยจับสามารถกุมได้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.นพศิลป์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ต.ค. มีเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 82/79 ซอยซีเมนท์ไทย แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 40,000 บาท นาฬิกาข้อมือ 5 เรือน เหรียญทองจำนวน 2 เหรียญ ต่อมาเวลา 20.00 น. วันเดียวกันคนร้ายก่อเหตุเข้าไปชิงทรัพย์อีกครั้งที่บ้านเลขที่ 5 ซอยรัชดา 58 ถ.รัชดาภิเษก แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไทยจำนวน 3,500 บาท ธนบัตรสกุลยูโรจำนวน 350 ยูโร ธนบัตรสกุลวอนจำนวน 20,000 วอน รวมเป็นเงินทั้งหมด 25,000 บาทและแหวนทองคำน้ำหนัก 2 สลึงจำนวน 1 วง ทั้ง 2 เหตุเกิดในท้องที่สน.ประชาชื่น จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถเก็บลายนิ้วมืิอของคนร้ายไว้ได้จนทราบว่านายจักรพลเป็นผู้ก่อเหตุ พนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่นจึงขออำนาจศาลอาญาทำการออกหมายจับ จนสามารถจับกุมนายจักรพลได้ในที่สุด พ.ต.อ.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลเข้าตรวจค้นที่ห้องเลขที่ 505 เลี้ยงสำอางแมนชั่น เลขที่ 11/1 ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. และที่บ้านพัก 118/7 หมู่ 2 ต.ท้ายเกาะ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี สามารถตรวจยึดของกลางทรัพย์สินมีค่าได้จำนวนหลายรายการ จากการสอบสวนนายจักรพลให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ปกติประกอบอาชีพเป็นคนขับรถตู้รับจ้างทั่วไป เคยก่อเหตุมาแล้วกว่า 16 ครั้ง โดยลงมือในช่วงเวลากลางวันและช่วงหัวค่ำเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งนายจักรพลขับขี่รถจยย.สวมทะเบียนพร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง)นั่งซ้อนท้าย ตระเวนเลือกบ้านหลังใหญ่ที่ประตูและหน้าต่างปิดสนิทและไปกดกริ่งหน้าบ้านเพื่อตรวจดูว่ามีคนอยู่ในบ้านหรือไม่ ก่อนปีนรั้วเข้าไปลักทรัพย์สินในบ้าน เข้าไปในห้องนอนของผู้เสียหายที่ส่วนใหญ่มีตู้เซฟ ก่อนใช้อุปกรณ์งัดแงะ หยิบเงินสด เครื่องประดับและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆใส่กระเป๋าสะพายหลบหนีออกมา เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนำไปขายตามโรงรับจำนำและแบ่งเงินกับเพื่อน นำไปเที่ยวเตร่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบประวัตินายจักรพลพบว่าเรื่มก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมีผู้เสียหายจำนวนหลายรายแจ้งความไว้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.ประชาชื่น สน.บางโพงพาง สน.ทองหล่อ สน.พระโขนง สน.หลักสอง สน.บางเสาธง สน.เพชรเกษม สน.โชคชัย สน.ยานนาวา และสน.บางนา ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาอีกรายที่ยังคงหลบหนีอยู่ ก่อนส่งตัวนายจักรพลให้พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นดำเนินคดีต่อไป.