วันที่ 10 พฤษภาคม 2566  นางสาววันทนา แจ้งประจักษ์ รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบนโยบายในการประชุมเพื่อพัฒนาหลักสูตรอาสาสมัครการท่องเที่ยวและกีฬา ว่า การจัดหลักสูตรอบรมเพื่อสร้างองค์ความรู้ให้แก่ บรรดาอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา จะเป็นเสมือนติดอาวุธทางปัญญาให้แก่อาสาสมัครทุกคน ที่จะต้องเข้าไปทำหน้าที่ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะได้นำความรู้ ทักษะ รวมถึงประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับไปใช้อย่างถูกวิธี และถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยกลุ่มเป้าหมายนอกจากจะเป็นนักท่องเที่ยว นักกีฬา และบุคลากรทางทางการกีฬาแล้ว อาสาสมัครเหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมให้มีการนำเรื่องของกีฬาไปใช้ในการสร้างสุขภาวะที่เหมาะสมแก่ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

สำหรับ “อาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา” (อสทก.) ภาษาอังกฤษเรียกว่า Tourism And Sports Volunteer : TSV เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยแก่นักท่องเที่ยวและนักกีฬาชาวต่างชาติ ดังนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงมีการอบรมอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาในทุกพื้นที่ให้มีศักยภาพมากขึ้น และสามารถดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนภารกิจด้านการท่องเที่ยวและกีฬาให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปฏิบัติงานภายใต้ระเบียบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน

ทั้งนี้ ​การจัดอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะมีการจัดขึ้นจำนวน 6 ครั้ง ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 โดยจะมีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้นจำนวน 240 คนในจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญ จังหวัดละ 40 คน ได้แก่ ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต เพชรบุรี พระนครศรีอยุธยา และเชียงใหม่ โดยหลักสูตรและองค์ความรู้ที่สำคัญประกอบด้วย กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว, การปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตเบื้องต้น, เทคนิคการดูแลสุขภาพตนเอง ครอบครัว และชุมชน เป็นต้น ซึ่งมีความสอดคล้องกับระเบียบที่ว่าด้วยอาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬา พ.ศ. 2565 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ดังนั้น อาสาสมัครท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์ เสียสละ มีจิตอาสา รักงานบริการ ไม่มุ่งหวังประโยชน์ตอบแทน และมีความสามารถในการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐภาคเอกชน รวมถึงชุมชนท้องถิ่น ซึ่งคุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทย จะเป็นกลไกสร้างความเชื่อมั่นและความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี