จากกรณีเกิดเพลิงไหม้โรงภาพยนตร์ชั้น 4 ของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขา ปิ่นเกล้า ถนนบรมราชชนนี แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม จากการตรวจสอบทราบว่ามีโรงภาพยนตร์เสียหายจำนวน 8 โรง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ2 ราย เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ สาขาปิ่นเกล้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่กรมโยธาและผังเมือง เข้าตรวจสอบทรัพย์สินเสียหายภายในร้านค้าต่างๆที่อยู่ภายในห้างเมเจอร์ หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อดูโครงสร้างว่าจะสามารถอนุญาตให้เข้าไปได้หรือไม่ เนื่องจากว่าขณะเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดน้ำเข้าไปภายในที่เกิดเหตุ เกรงว่าหากเข้าไปอาคารอาจจะเกิดการทรุดตัวและทำให้เกิดอันตราย อย่างไรก็ตามทางเจ้าของร้านค้าจำนวนหลายร้านได้เข้าเดินทางมาลงชื่อที่กองอำนวยการ ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดตั้งไว้บริเวณด้านหน้า เพื่อให้เจ้าของร้านเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สิน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ 1 คน และตัวแทนเจ้าของร้าน เข้าไปในอาคารเท่านั้น ด้านเจ้าของร้านทำผมภายในเมเจอร์ เปิดเผยว่า ตนเป็นตัวแทนเจ้าของบริษัทดังกล่าวเข้ามาสำรวจทรัพย์สินภายในร้านที่อยู่บริเวณชั้น2 ซึ่งภายในมีทรัพย์สินหลายอย่าง เพราะช่วงที่เกิดเหตุ ตนเห็นคนวิ่งลงมาจากชั้น3 และมีกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมา จึงรีบออกมาจากอาคารทันที ต่อมาเวลา 10.30 น. พ.ต.ต.ธานี มีชัย สว .(สอบสวน)สน.บางพลัด พร้อม เจ้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบภายในโดยใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ด้านนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการกองควบคุม อาคาร สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารพบว่าการก่อสร้างอาคาร และวัสดุที่ใช้ ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งประกอบไปด้วย ระบบดับเพลิง บันไดหนีไฟ ประตูหนีไฟ สัญญาณเตือนไฟไหม้ ตรวจจับกลุ่มควัน ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุพบว่าภายในตัวอาคารมีความเสียหายบริเวณชั้น 4 ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 13 โรง โดยโครงสร้างหลังคาได้บิดผิดรูปไปจากเดิมเนื่องจากโดนความร้อนจากการเกิดเพลิงไหม้ สำหรับระยะเวลาในการปรับปรุงแก้ไขตัวอาคารนั้นขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารว่าจะเริ่มทำการแก้ไขเมื่อใด และเมื่อมีการปรับปรุงแก้ไขเสร็จสิ้นให้แจ้งทานสำนักงานเขตเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเปิดใช้บริการ อย่างไรก็ตามคาดว่าในวันที่ 30 กรกฎาคม เจ้าหน้าจากวิศวกรรมสถานจะเข้าตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ พ.ต.อ.อนุราช จิตศิล นักวิทยาศาสตร์สบ.4 หน.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุกองพิสูจน์หลักฐาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ที่ห้องฉายภาพ ภาพยนตร์โรงที่ 7 จากนั้นลามไปยังโรงภาพยนต์ที่ 8 และลุกลามไปภาพยนตร์โรงที่ 1-8 ความเสียหายทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 4 จุดที่มีความเสียหายมากที่สุดคือบริเวณหลังคาของโรงภาพยนตร์จนเป็นเหตุให้หลังคาเกิดการทรุดตัว อย่างไรก็ตามโรงภาพยนตร์ที่ 9-13 ไม่ได้รับความเสียหาย ด้านพนักงานสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่งกล่าวภายหลังได้เข้าไปตรวจสอบสถาบันที่ตนเองทำงานอยู่ พบว่า ด้านหน้าสถาบันสามารถเข้าได้ไม่ได้รับความเสียหาย เพียงแต่ด้านหลังมีเศษวัสดุและฝาเพดานเปิด รวมทั้งมีน้ำซึมเล็กน้อยจากการดับเพลิงไฟเมื่อวาน ยอมรับว่าได้รับผลกระทบเล็กนอก เนื่องจากทางผู้จัดการสถาบันได้ให้ตนเองย้ายไปสอนสาขาอื่น ต่อมาเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ประกอบการมาลงทะเบียนเพื่อเข้าตรวจสอบทรัพย์สินกว่า 200 ราย รวมถึง ร้าน Never Say Cutz (เนเวอร์ เซย์ คัทซ์) ร้านตัดผมของ ครอบครัวอินทชัย นายเวย์ ไทเทเนี่ยม นักร้องฮิปฮอปชื่อดัง และนาง นานา ไรบีนา พิธีกรสาว ได้รวมลงชื่ออีกด้วย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้พาเจ้าของร้านค้าเข้าไปภายในห้างสรรพสินค้า โดยแบ่งเป็นที่ละชั้น ตัวแทนร้านละ 1-2 คน พร้อมทั้งมีการตรวจสอบเอกสารรายละเอียดเพื่อดูว่าเป็นผู้ประกอบการร้านค้าภายในห้างสรรพสินค้าจริงหรือไม่ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขาปินเกล้า ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ซึ่งในส่วนของการตรวจพิสูจน์คงต้องใช้เวลาเพราะทางกองพิสูจน์หลักฐานต้องหาข้อมูลและรายละเอียดพอสมควร อย่างไรก็ตามในส่วนของตำรวจซึ่งจะต้องแสวงหาหลักฐานเพื่อประกอบการพิสูจน์ทราบหรือทำให้หายสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อคลี่คลายคดี ทั้งภาคพื้นดิน และในส่วนที่จะต้องดำเนินการทุกอย่าง อาจจะตรวจสอบตั้งแต่ตั้งมา มีผลประกอบการเป็นอย่างไรทำนองนี้ ก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า ในส่วนของการสอบพยาน เมื่อช่วงเช้าได้มีการเรียกพยานบุคคลมาสอบแล้วประมาณ 4-5 ปาก ทั้งผู้ที่เห็นเหตุการณ์ตอนแรก และผู้ที่เกี่ยวข้อง หัวหน้าส่วนที่รับผิดชอบตรงนั้น รวมทั้งคนอื่นๆ ซึ่งตนก็ได้สั่งกำชับพนักงานสอบสวนไปแล้วว่าให้ไปสอบสวนบุคคลต่างๆนานา และให้รายงานให้ทราบเป็นระยะด้วย คิดว่าคงไม่นานก็จะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้ ส่วนที่ ผอ.เขตระบุว่าสาเหตุของเพลิงไหม้เกิดจากป้ายไฟก็เป็นความเห็นหนึ่ง ซึ่งเราคงต้องสอบปากคำท่านด้วย เอาหลายๆอย่างแล้วเราก็มาพิสูจน์ทราบว่ายังมีข้อสงสัยประเด็นไหนอีกหรือไม่ พ.ต.ต.ธานี มีชัย สว.(สอบสวน)สน.บางพลัด เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาโดยเฉพาะโดยมีพนักงานสอบสวนจากสน.ตลิ่งชันมาช่วยด้วย 2 นาย เนื่องจากมีผู้เสียหายหลายราย ซึ่งขณะนี้ได้สอบพยานไปได้เพียงแค่5 ปากเท่านั้น เพราะหลายคนยังไม่สะดวกมาให้ปากคำ เนื่องจากต้องตรวจสอบทรัพย์สินของตัวเองเสียก่อน โดยพยานที่จะสอบประกอบไปด้วยชุดดับเพลิงเบื้องต้นของทางห้าง พนักงงานโรงหนัง เจ้าหน้าที่ห้าง ผู้อำนวยการห้าง เจ้าหน้าที่โยธาเขต และต้องขอภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในโรงหนัง เพื่อจะได้รู้ว่าจุดที่เกิดเพลิงไหม้คือจุดใดกันแน่ ขณะนี้ต้งรอผลจากกองพิสูจน์หลักฐานด้วยว่าเกิดจากเหตุใด ว่าเป็นความประมาท หรือ ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งในวันนี้ยังตรวจไม่ได้ เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุยังเปียกและมีโฟมไหลลงมาปิด จึงต้องรอเข้าตรวจอีกครั้งในวันจันทร์ที่1 ส.ค.นี้