ด้วยเป็นปีท่องเที่ยวไทย 2566” เปิดตัว ทางการท่องเที่ยวไทย(ททท.) ได้ส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยมีกิจกรรมรมเชิงสร้างสรรค์ ทั้งศิลปะ ดนตรี กีฬา วัฒนธรรม นันทนาการ  เพื่อกระตุ้นและสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องเที่ยว  

สร้างสรรค์กิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เล็งเห็นโอกาสในการใช้กลยุทธ์จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์มาเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยว   และส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวมิติใหม่ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความหมาย  โดยมีกิจกรรม AMAZING ULTIMATE FESTIVAL นำศิลปะและดนตรีเป็นสื่อกลางผสมผสานส่งมอบความสุข     

 

ซึ่งแบ่งตาม  อัตลักษณ์ของพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต มีกิจกรรมหลักเป็น Sport Tourism และจังหวัดสงขลาและประจวบคีรีขันธ์มีกิจกรรมหลักเป็น Recreation Festival    งานนันทนาการต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาตินำไปสู่ การใช้จ่ายในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันจะสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก และสะท้อนศักยภาพพื้นที่และสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางท่องภายในประเทศอย่างปลอดภัย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2566  พร้อมกันนี้ยังรณรงค์ ให้นักท่องเที่ยวร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในแหล่งท่องเที่ยวตามแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ โดยคาดว่าการจัดงานดังกล่าวจะกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ มีจำนวนผู้เข้าร่วมงาน ทั้ง 4 พื้นที่ไม่น้อยกว่า 50,000 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนประมาณ 140 ล้านบาท

ตอบโจทย์ความสะดวกและปลอดภัย

ด้าน นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ภายหลังจากการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน1 มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 9.9 ล้านคน ซึ่งสร้างรายได้ให้กับประเทศแล้วกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทย 25 - 30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ผนวกกับรายได้จากนักท่องเที่ยวตลาดในประเทศ 8.8 แสนล้านบาท ทำให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวจะมุ่งสู่ 2.38 ล้านล้านบาทภายในสิ้นปี

โดยในปีนี้ ททท. ยังคงเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวสำหรับตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวตามเป้าหมายทั้งในแง่รายได้และการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ ควบคู่ไปกับการ Shape Supply ยกระดับห่วงโซ่อุปทานให้มีมาตรฐานการให้บริการในระดับสากล ตลอดจนการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว สอดรับการส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ สร้าง Meaningful Travel ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหนือระดับและน่าประทับใจ และเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายนี้ ททท. จึงได้จับมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน รวมถึง แกร็บ ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้นำแพลตฟอร์มที่ให้บริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันอันดับ 1  โดยร่วมกันจัดแคมเปญพิเศษในช่วงกลางปี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความมั่นใจด้านการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

สำหรับแกร็บ ประเทศไทย  ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งในด้านความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความโปร่งใสของราคา โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ใช้บริการเรียกรถผ่านแกร็บเพิ่มขึ้นกว่า 25%2 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ดังนั้นเมื่อร่วมส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศไทยและสร้างความมั่นใจในเรื่องของการเดินทางให้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จึงเกิดการร่วมมือกับ ททท. ขึ้นภายใต้แคมเปญ อะเมซิ่งทั่วไทย มั่นใจไปกับแกร็บ เพื่อร่วมโปรโมตแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดสำคัญ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการของพาร์ทเนอร์คนขับให้กลายเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว