นายมุน ซึง-ฮยอน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปี 2566 เป็นปีที่มีความหมายในการฉลองครบรอบ 65 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างเกาหลีและไทยโดยทุกภาคส่วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือในครั้งนี้ ทั้งการทูต เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ซึ่งในโอกาสเฉลิมฉลองครั้งนี้ ทางสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยได้จัดกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลเกาหลีและไทยได้ประกาศให้ ปี 2566 – 2567 เป็น “ปีแห่งการท่องเที่ยวเกาหลี - ไทย” 

ด้าน นายลี ซาง อู ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยที่เดินทางไปยังประเทศเกาหลีมีจำนวนมากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 5 ของโลก โดยอันดับหนึ่งจะเป็น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย ดังนั้น รัฐบาลของทั้งสองประเทศ จึงได้ร่วมกันตั้งเป้าตลอดปี 2566-2567 เป็นช่วงของ Korea – Thailand Visit Year เพื่อกระตุ้นให้คนเกาหลีและคนไทยเดินทางท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ให้มากขึ้น โดยเริ่มจากงาน Thailand - Korea Tourism Forum ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลี ในวันที่ 27 มิถุนายน 2566 โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ และเอกชนเข้าร่วมกิจกรรม อาทิ การอภิปราย รวมถึงการประชุมทางธุรกิจ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดกิจกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) และองค์กรธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C) ที่ประเทศไทยเช่นกัน โดยเริ่มต้นที่กรุงเทพมหานครภายใต้ชื่องาน “Korea Everywhere” กำหนดจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ และมีแผนจะไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองไมซ์ของไทยอีกด้วย นอกเหนือจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้วยังมีแผนทำการตลาดในรูปแบบ K – Culture และใช้ช่องทางโซเชียล มีเดียตลอดทั้งปี

ซึ่งการสนับสนุนตัวแทนท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นอีกปัจจัยที่ให้ความสำคัญ โดยมีการประสานงานใกล้ชิดกับสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA) เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ด้วยการร่วมมือกับเคทีซีเปิดตัวแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้พบกับการท่องเที่ยวเกาหลีในรูปแบบที่เหนือระดับยิ่งกว่าเดิม

ด้าน นางสาวอริญชยา เลิศวัฒนชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี กล่าวว่า สำหรับใน ปี 2566 - 2567 รัฐบาลเกาหลีได้ประกาศว่าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของเกาหลี โดยองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) ได้นำเสนอกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งแพ็คเกจการเดินทาง และแคมเปญส่งเสริมด้านการขาย โดยใช้วัฒนธรรมของ K – Culture เป็นแกนในการกระตุ้นนักท่องเที่ยว

สำหรับในปีนี้ได้มอบประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบ Premium Travel ในมุมมองที่แตกต่าง มุ่งเน้นการทำการตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการความเอ็กซ์คลูซีฟมากยิ่งขึ้น สะท้อนผ่าน 3 มิติ ประกอบด้วย วัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งในปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิดนั้นมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปประเทศเกาหลีอยู่ที่ประมาณ 570,000 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มพรีเมี่ยมอยู่ประมาณ 20% และมีชาวเกาหลีมาเที่ยวไทยจำนวนประมาณ 1,890,000 คน 

ทั้งนี้ นางสาวอริญชยา กล่าวว่า “วัฒนธรรม” เกาหลีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนาน อาทิ ดนตรี การเต้นรำ ละคร และวรรณกรรม ร่วมสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมท้องถิ่นแบบลึกซึ้ง อาทิ ชมสวนลับที่พระราชวังชางด็อกกุง หรือชมใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเกาหลี  “อาหาร” ประเพณีการทำอาหารแบบท้องถิ่นยังคงเป็นเสน่ห์สำหรับเกาหลี ร่วมตามรอยร้านอาหารเกาหลีที่มีรสชาติความอร่อยระดับมิชลินสตาร์ ลิ้มรสอาหารเกาหลีเมนูต้นตำรับระดับพรีเมี่ยม นอกจากนี้ยังร่วมสัมผัสและ เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีผ่าน “กิจกรรมเพื่อสุขภาพ” อาทิ เปิดประสบการณ์ดูแลผิวพรรณ ด้วยส่วนผสมสมุนไพรระดับตำนานอย่างโสม ด้วยความเอ็กซ์คลูซีฟที่สะท้อนผ่าน 3 มิติดังกล่าว ผนวกกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิดเริ่มเปลี่ยนแปลงด้วยการใช้เวลาพักอยู่ภายในประเทศนานขึ้น จึงทำให้มิติทั้ง3 ข้อตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นอย่างดี โดยมีเวลาพักอยู่ที่ประมาณ 4 คืน 5 วันเป็นอย่างน้อย ใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 50,000 กว่าบาท

ส่วน นางสาวพัทธ์ธีรา อนันต์โชติพัชร ผู้บริหาร KTC World Travel Service และการตลาดท่องเที่ยวหมวดสายการบิน กล่าวว่า ประเทศเกาหลีมีเอกลักษณ์ทั้งด้านวัฒนธรรม อาหาร รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามโดดเด่นในแต่ละฤดูกาล สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี ประกอบกับความแข็งแรงด้าน Soft Power ผ่านผลงานด้านศิลปะ ดนตรี ซีรี่ส์ เป็นส่วนกระตุ้นให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวเกาหลีมากขึ้นด้วย  

ดังนั้น เคทีซี จึงเล็งเห็นความสำคัญของการทำงานกับทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี และพันธมิตรหมวดท่องเที่ยว เพื่อมอบสิทธิประโยชน์ให้กับสมาชิกบัตรฯ ได้เดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลีอย่างคุ้มค่า โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีนี้เทียบช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 (ช่วงวิกฤติโควิด-19) มีจำนวนยอดรูดบัตรฯที่ประเทศเกาหลีเพิ่มมากขึ้น19% และมียอดใช้จ่ายต่อสมาชิกเพิ่มถึง 16% ในขณะที่ KTC World Travel
Service มียอดใช้จ่ายเส้นทางเกาหลีเพิ่มขึ้น 13% 

ซึ่ง เคทีซีร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) จัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องมากว่า 5 ปี สำหรับในปีนี้ การร่วมกันเปิดตัวแคมเปญ​ “Only in Korea, Especially for You” ในครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้สมาชิกบัตรฯ วางแผนท่องเที่ยวไปยังประเทศเกาหลีมากยิ่งขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์กับพันธมิตรสายการบินชั้นนำ ได้แก่ เอเชียนา แอร์ไลน์ / โคเรียน แอร์ และการบินไทย และแพคเกจพิเศษดังนี้ การจองผ่านหน้าเว็บไซต์สายการบิน อาทิ ส่วนลด 1,500 บาทจากสายการบิน เอเชียนา แอร์ไลน์ / ส่วนลด 10% จากสายการบิน โคเรียน แอร์ / หรือเมื่อจองผ่าน KTC World Travel Service

อีกทั้งยังรับส่วนลดตั๋วเครื่องบินทั้ง 3 สายในเส้นทางเกาหลีสูงสุดถึง 3,000 บาท / รับเพิ่ม 500 ROP miles กับการบินไทย และน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มกับสายการบิน โคเรียน แอร์ แพคเกจเที่ยวอิสระกับ Lotte Hotel & Resort 3 วัน 2 คืน พร้อมบัตรเข้าสวนสนุก Lotte World สำหรับ 2 ท่าน ในราคาพิเศษพร้อมส่วนลด 1,000 บาท / แพคเกจท่องเที่ยวเกาหลีมุมมองใหม่เอ็กซ์คลูซีฟ 5 วัน 3 คืน โดยออกเดินทางในช่วงที่สวยที่สุดของเกาหลีในเดือนพฤศจิกายนนี้เพียง 79,900 บาท / รับสิทธิ์ผ่อนได้ 0% นาน 6 เดือน  

นอกจากนี้ สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซียังมีสิทธิ์ลุ้นเป็น 5 คู่ผู้โชคดีท่องเที่ยว 5 วัน 3 คืน "Only In Korea, Especially for You" สัมผัสเกาหลีในรูปแบบที่แตกต่าง จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 800,000 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรฯ สูงสุด ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการได้แก่ KTC World Travel Serviceศูนย์การค้าและดิวตี้ฟรีชั้นนำ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 –วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ระยะเวลาแคมเปญ “Only in Korea, Especially for You” ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2566 – 15 ธันวาคม 2566 สามารถศึกษารายละเอียดและกิจกรรมเพิ่มเติมของแคมเปญฯ​ได้ที่ www.ktc.co.th/VisitKorea2023