สำหรับ 'เซ็นทรา บาย เซ็นทารา บางกอก พระนคร'เป็น โรงแรมแห่งที่ 5 ในกรุงเทพฯ ของเครือเซ็นทารา โดยมีบริษัท อมรพัฒนา แอสเซท จำกัด เป็นเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ หลังเข้าซื้อก็ได้เปลี่ยนเป็นแบรนด์เซ็นทารา และเพียงไม่กี่เดือนที่เปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2565 ก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งแนวทางการตลาดที่ทำให้ประสบผลสำเร็จนั้น ทาง นางสาวเมตตา บุญญฤทธิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา บางกอก พระนคร ได้สะท้อนได้อย่างน่าสนใจ

ยุโรปและเอเชียมากกว่า 30%

นางสาวเมตตา บุญญฤทธิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทรา บาย เซ็นทารา บางกอก พระนคร กล่าวว่า ในช่วงแรกที่เปิดได้ผลตอบรับดีมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 65% ทำกำไรได้ทุกดือนต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป 35% รองลงมาคือเอเชีย 31% ซึ่งรวมลูกค้าคนไทยด้วย ส่วนใหญ่นิยมเข้าพักช่วงสุดสัปดาห์หลังจากท่องเที่ยวกลางคืนตรงถนนข้าวสาร ขณะที่เฉพาะตลาดจีนมี 11% เฉพาะตลาดรัสเซีย 5% ที่เหลือเป็นตลาดอื่นๆ เช่น ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และแอฟริกา

โดย นางสาวเมตตา กล่าวว่า โรงแรมได้วางกลุ่มลูกค้าเป็นตลาดกรุ๊ปทัวร์ 50% ซึ่งเริ่มได้กลุ่มนี้เข้ามาเป็นฐานตั้งแต่เดือน มกราคมที่ผ่านมา ส่วนอีก 50% เป็นลูกค้ากลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ที่นิยมจองผ่านแพลตฟอร์มของบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ (Online Travel Agent: OTA) ซึ่งเป็นช่องทางการขายที่โรงแรมเปิดใหม่ต้องพึ่งพาสร้างการรับรู้  โดยปัจจุบันสามารถปรับลดอัตราค่าคอมมิชชั่นของ OTA ได้ในหลายๆ ตลาด แสดงว่าโรงแรมริ่มติดตลาดในกลุ่มลูกค้า ยกเว้นตลาดนักท่องเที่ยวสหรัฐที่ยังต้องรุกโปรโมตผ่าน OTA กันต่อ ขณะที่ในไตรมาส 2 นี้มีนักท่องเที่ยวจีนเข้าพักโรงแรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสแรก  

คนไทยยังเป็นตลาดหลัก

ทั้งนี้ นางสาวเมตตา ยังกล่าวต่อว่า ลูกค้าคนไทย ยังเป็นฐานตลาดที่ต้องการรักษาเอาไว้ ซึ่งทางโรงแรมได้จัดโปรโมชั่นแบบไม่กำหนดเวลาดึงนักท่องเที่ยวสายมู ตระเวนไหว้พระชมวัดวังบริการแพ็กเกจห้องพักสำหรับ 2 คน ราคาเริ่มต้น 2,565 บาทต่อคืนสำหรับการเข้าพักในวันธรรมดา รวมอาหารมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น  และถ้าสนใจที่จะเดินทางไปวัดพระแก้ว-วัดโพธิ์-วัดอรุณฯ แต่ถ้าต้องการเข้าพักในวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ สามารถจ่ายเพิ่ม 500 บาทต่อคืน  

โดยโรงแรมให้บริการห้องพักจำนวน 180 ห้อง เริ่มตั้งแต่ห้องซูพีเรียร์ ห้องดีลักซ์ และห้องพรีเมียมดีลักซ์ ขนาดตั้งแต่ 21 ถึง 38 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นคืนละ 1,800 บาทขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีห้องพรีเมียมสวีท ขนาด 44 ตารางเมตร สำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวหรือผู้เข้าพักระยะยาว ราคาเริ่มต้นคืนละ 4,000 บาทขึ้นไป ตั้งเป้าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยตลอดปี 2566 ต้องไม่ต่ำกว่า 65%

อย่างไรก็ตาม นางสาวเมตตา กล่าวว่า เจ้าของโรงแรมได้ให้เป้าหมายรักษาระดับราคาห้องพัก  เฉลี่ยต้องไม่ต่ำกว่า 1,800 บาทขึ้นไปต่อคืน หลังผลตอบรับดีเกินคาด จากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าจะทำราคาเฉลี่ยได้ไม่เกิน 1,200-1,500 บาทขึ้นไปต่อคืนซึ่งช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 โรงแรมเราสามารถทำอัตราการเข้าพักวันธรรมดา 60-65% แต่ถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ทำได้สูงถึง 90% โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว เช่น เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาอัตราการเข้าพักทะลุ 90% สามารถอัพราคาห้องพักได้ถึง 2,400 บาทต่อคืน จากราคาปกติเฉลี่ย 1,800 บาทต่อคืน