นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด เผยว่า "THE MATCH OF LEGEND" การแข่งขันชกมวยครั้งประวัติศาสตร์ ระหว่าง 2 ตำนานนักชกระดับโลก "เดอะแพ็กแมน"แมนนี่ ปาเกียว อดีตแชมป์โลก 8 รุ่นคนแรกของโลก ชาวฟิลิปปินส์ ปะทะ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดมวยไทย ซึ่งไฟต์นี้ถือเป็นแมตช์ที่น่าจดจำ ที่จะได้เห็น 2 ยอดมวยโลกได้มาดวลหมัดกัน ที่สำคัญจะเป็นครั้งแรกที่บัวขาว มาต่อยมวยสากล ถือเป็นความท้าทายของบัวขาว ในขณะที่ปาเกียวถือเป็นนักมวยที่รู้จักกันทั่วโลกด้วยผลงานที่ยังไม่มีนักมวยคนไหนมาล้มได้ และที่สำคัญทั้งสองยังคงโลดแล่นอยู่บนสังเวียนผืนผ้าใบ การนำเอา 2 นักชกระดับตำนานมาดวลหมัดกันจึงเป็นปรากฏการณ์ที่เชื่อว่าวงการกีฬาโลกจะให้ความสนใจกับแมตช์นี้ และการมาปรากฏตัวของปาเกียว ในวันนี้เป็นการยืนยันว่าไฟต์หยุดโลกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

"การชกจะชกในรูปแบบมวยสากล ภายใต้กติกาขององค์กรสภามวยโลก (WBC) โดยความพิเศษของเดอะแมตช์ จะใช้กติกากลาง ระหว่างมวยสากลกับมวยไทย ซึ่งจะมีความปลอดภัยและสนุกตื่นเต้น ชก 6 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที พิกัดน้ำหนัก 70 ก.ก. โดยมูลค่าในการจัดไฟต์นี้อยู่ที่ราว 860 ล้านบาท ส่วนค่าตัวของทั้งคู่ทุบสิติในการจัดมวยในไทยแน่นอน ผู้ชนะจะได้รับเข็มขัดแชมป์ซึ่งถูกออกแบบมาเป็นพิเศษจาก WBC และเงินรางวัล นอกจากนี้ยังมีรางวัลพิเศษสำหรับคู่น็อกเร็ว ซึ่งเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษที่จตะมาจากผู้สนับสนุนใจดีเชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 10 ล้าน"

"ปาเกียว" กล่าวว่า รู้จักบัวขาวในฐานะที่เป็นยอดนักมวยไทยที่เป็นโด่งดั่งไปทั่วโลก ถนัดเข่าศอก ต่างจากมวยสากลที่ใช้หมัด ทำให้บัวขาวคงต้องไป ซ้อมหนัก แต่ยังพอมีเวลา ส่วนตัวนั้นชื่นชอบมวยไทย และเคยมาฝึกมวยไทยที่ไทยเมื่อปี 2005 ซึ่งยากกว่ามวยสากลมาก อย่างไรก็ตาม รู้สึกภูมิใจ และเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ขึ้นชกกับยอดนักมวยไทยที่โด่งดังไปทั่วโลกอย่างบัวขาวในไฟต์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้

"บัวขาว" กล่าวว่า ตนพูดกับนายวินิจว่าสิ่งที่อยากทำก่อนแขวนนวม แต่ยังไม่ได้ทำ เป็นความฝันคืออยากชกกับปาเกียว กระทั่งผ่านไป 2 เดือน นายวินิจได้ติดต่อมาว่าจะเกิดไฟต์นี้ขึ้นรู้สึกตกใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง เพราะเราติดตามปาเกียวชกมาโดยตลอด เขาเป็นยอดนักชกระดับโลก