ตำรวจขอนแก่น รวบหนุ่มโคราช ตระเวนขโมยตู้บริจาควัดดังทั่วเมืองขอนแก่น สารภาพหน้าตาเฉยไม่กลัวบาปแต่ต้องการเงินใช้จ่ายในครอบครัว เลือกเฉพาะวัดเท่านั้นเพราะพระท่านให้อภัยเสมอ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 2559 พ.ต.อ.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ รักษาการ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.นรวัฒน์ คำพิโล รอง ผกก.สส. สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายอนุวัฒน์ แซ่โค้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 384 ม.17 ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใช้ในการลงมือก่อเหตุรวมไปถึง อุปกรณ์งัดแงะ ต่างๆ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอนจับกุมตัวได้ ภายในชุมชนโนนทัน หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่น ในข้อกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์นั้น
พ.ต.อ.พรหมณัฏฐเขต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเผยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดศรีสว่างโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าทำการลักทรัพย์ตู้รับเงินบริจาค โดยทำการงัดหน้าต่างของสหกรณ์หลวงปู่ศรี ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัด โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพของคนร้ายได้ทั้งหมด เป็นโจร รูปร่างผอม
"เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แกะรอยคนร้าย จากรูปพรรณสันฐานที่ได้จากหลักฐาน คือลายสักที่แขนทั้ง 2 ข้าง และรุปพรรณต่างๆ โดยในการก่อเหตุดังกล่าวนี้คนร้ายได้ทำการยกตุ้รับบริจาค 2 ตู้ และเงินในขันใส่เงินรวมเงินสดที่ได้ไปครั้งนี้ รวมกว่า 10,000 บาท เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวครบ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนหาตัวคนร้าย เป็นลูกจ้างร้านจำหน่ายอาหารอีสาน อยู่ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จึงลงพื้นที่คิดตามพบว่าเจ้าตัวไม่มาทำงานหลายวันแล้ว"
รักษาการ ผบก.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อขอหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มารับจ้างทไงานในเขต จ.ขอนแก่น มานานแล้ว โดยไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ส่วนการลงมือลักตู้บริจาคนั้นทำมานานเช่นกัน และเคยถูกตำรวจ สภ.กู่ทอง จ.มหาสารคาม จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ติดคุก 1 ปี 6 เดือน ขณะที่การลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ตุ้บริจาควัดในเขต จ.ขอนแก่นนั้นเริ่ม ตั้งแต่ช่วงออกพรรษาเป็นต้นมา ครั้งแรกที่วัดป่าวิเวกธรรม ต่อด้วย วัดศรีจันทร์ และล่าสุดวัดศรีสว่างโนนทัน นำเงินไปซื้อข้าวกิน ซื้อเสื้อผ้า และเที่ยวห้างสรรพสินค้า โดยไม่เกรงกลัวบาป และการที่เลือกลงมือก่อเหตุที่วัดนั้นเพราะมีความเชื่อว่าพระท่านให้อภัยเสมอ
อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล่วเสร้จผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.พรหมณัฏฐเขต กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเผยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจากพระลูกวัดศรีสว่างโนนทัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวเข้าทำการลักทรัพย์ตู้รับเงินบริจาค โดยทำการงัดหน้าต่างของสหกรณ์หลวงปู่ศรี ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของวัด โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพของคนร้ายได้ทั้งหมด เป็นโจร รูปร่างผอม
"เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แกะรอยคนร้าย จากรูปพรรณสันฐานที่ได้จากหลักฐาน คือลายสักที่แขนทั้ง 2 ข้าง และรุปพรรณต่างๆ โดยในการก่อเหตุดังกล่าวนี้คนร้ายได้ทำการยกตุ้รับบริจาค 2 ตู้ และเงินในขันใส่เงินรวมเงินสดที่ได้ไปครั้งนี้ รวมกว่า 10,000 บาท เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าวครบ เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนหาตัวคนร้าย เป็นลูกจ้างร้านจำหน่ายอาหารอีสาน อยู่ภายในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จึงลงพื้นที่คิดตามพบว่าเจ้าตัวไม่มาทำงานหลายวันแล้ว"
รักษาการ ผบก.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเพื่อขอหมายจับจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มารับจ้างทไงานในเขต จ.ขอนแก่น มานานแล้ว โดยไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ส่วนการลงมือลักตู้บริจาคนั้นทำมานานเช่นกัน และเคยถูกตำรวจ สภ.กู่ทอง จ.มหาสารคาม จับกุมในข้อหาลักทรัพย์ ติดคุก 1 ปี 6 เดือน ขณะที่การลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ตุ้บริจาควัดในเขต จ.ขอนแก่นนั้นเริ่ม ตั้งแต่ช่วงออกพรรษาเป็นต้นมา ครั้งแรกที่วัดป่าวิเวกธรรม ต่อด้วย วัดศรีจันทร์ และล่าสุดวัดศรีสว่างโนนทัน นำเงินไปซื้อข้าวกิน ซื้อเสื้อผ้า และเที่ยวห้างสรรพสินค้า โดยไม่เกรงกลัวบาป และการที่เลือกลงมือก่อเหตุที่วัดนั้นเพราะมีความเชื่อว่าพระท่านให้อภัยเสมอ
อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล่วเสร้จผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงควบคุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป