สามารถ อวยพรวันเกิด พิธา ขอให้มีความสุข  เราสองคนมีความเชื่อต่างกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขอให้ปกป้องสถาบัน อยู่คู่เมืองไทย ไปชั่วลูกสืบหลาน

วันที่ 5 ก.ย.66  นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ส่วนตัว แสดงความคิดเห็นผ่านรายการ สามารถ 5 นาที ระบุว่า...

สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศครับ วันนี้ผมสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ก็จะมาสื่อสารกับพ่อแม่พี่น้องประชาชน ผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss วันนี้สิ่งที่ผมจะต้องมาคุยกับพี่น้องประชาชน อย่างแรกก็คือได้มีการโพสอวยพรวันเกิดคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดคุณพิธาครับ ตนเองชื่นชมคุณพิธา หลายคนก็บอกว่าคุณพิธา มีฝีมือตรงไหน ผมขอชี้แจงบอกว่าคุณพิธานั้นก็เป็นตัวเเทนคนรุ่นใหม่ อายุปีนี้ก็ 43ปี   ผมเองก็ขอดลบันดาลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกที่คุณพิธานับถือนั้นจงดลบันดาลให้คุณพิธาสุขภาพแข็งแรง แต่เหนือสิ่งอื่นใด ที่ผมกับคุณพิธาเห็นต่างกันก็คือเรื่อง ของสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณพิธามีความเชื่อว่าจะต้องมีการแก้มาตรา112 เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ส่วนตัวผมนั้น ผมคิดว่ามาตรา112 นั้นเป็นสิ่งที่ต้องคงไว้ และไม่ต้องแก้ไขหรือเเตะต้องแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นสัจจะวาจาตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ก็มีข้อตกลงอย่างชัดเจนแล้วครับว่า พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง ผู้ใดจะฟ้องร้องมิได้ ผมเชื่อครับว่า ถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นไม่มีใครพูดถึงพระองค์ท่านนั้น จะมั่นคงเป็นปราการ จะไม่ถูกด้อยค่า ถูกลดทอนคุณค่า และถูกให้ร้ายโดยเฟคนิวส์ ถ้าสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ถูกด้อยค่า ไม่ถูกให้ร้าย ไม่ถูกปล่อยเฟคนิวส์ สถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะอยู่กับสังคมไทยไปตลอด

แต่เหนือสิ่งอื่นใดถ้ามีใครก็ตามที่เข้ามาสามารถที่จะละเมิดได้  พูดถึงพระองค์ท่านได้ พูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ในทางที่ผิด แล้วแนวทางของคุณพิธาคือต้องให้สถาบันเป็นผู้ฟ้องเอง หมายความว่าสำนักราชวังต้องเป็นผู้ฟ้องไม่ใช่ให้ใครมาฟ้องก็ได้ เรื่องนี้คือปัญหาใหญ่ครับเพราะสถาบันจะต้องลงมาทะเลาะกับประชาชน ซึ่งมันไม่ใช่เลย เนื่องจากสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นอยู่เหนือการเมือง ท่านไม่ต้องลงมายุ่งกับการเมืองครับ พระองค์ท่านไม่ได้ลงมาหาเสียง พระองค์ท่านไม่ได้ลงมาสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พระองค์ท่านไม่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี 

ฉะนั้นการที่จะพูดถึงพระองค์ท่านไม่เกิดประโยชน์หรอกครับ สถาบันพระมหากษัตริย์ถ้าไม่มีใครพูดถึงนั่นแหละครับจะมั่นคง แต่วันนี้มันมีคนเกลียด มันเลยต้องมีคนรักขึ้นมาต่อต้าน นั่นคือสิ่งที่มันเกิดปัญหา ถ้าวันนี้ไม่มีใครพูดถึงพระองค์ท่าน ยกเเละเทิดทูนไว้ให้เป็นที่สักการะอย่างเดียวนั้น  ผมเชื่อว่ามันไม่มีคนรักและไม่มีคนเกลียดครับ คงเป็นที่เคารพสักการะ ทุกคนเคารพสักการะ ไม่ต้องเอามาอยู่ในเบื้องหลังของการเมือง นั่นก็คือสิ่งที่ผมคิดว่าเราต้องชี้แจง ให้คุณพิธาเข้าใจ เพราะวันนี้ความเชื่อของผมกับความเชื่อของคุณพิธา และความเชื่อของคนหลายๆคนนั้นแตกต่างกัน มีคนบอกว่าทำไมคุณพิธาได้ตั้ง 14 ล้านเสียง ผมบอกว่าถ้าไปดูคะแนนการเลือกตั้งนั้นคุณพิธาไม่ได้อยู่อันดับหนึ่ง แต่หลังจากมีการขึ้นเวทีดีเบตที่มีการขึ้นเวทีดีเบตนั้น คุณพิธาดีเบตชนะคนที่เป็นตัวเเทนของพรรคการเมืองหลายๆพรรค พูดง่ายๆนักการเมืองที่ขึ้นดีเบต ณ เวลานั้นไม่มีใครสามารถชี้แจงแล้วพูดได้มีเหตุผลเท่าคุณพิธาเลย มันเลยทำให้คะแนนความนิยมของคุณพิธามาเป็นอันดับหนึ่งครับ 

นั่นก็คือสิ่งที่ผมต้องชื่นชม แต่พรรคการเมืองแต่ละพรรคไม่ได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มาแสดงวิสัยทัศน์ และก็มาพูดดีเบตกับคุณพิธา ในเวทีดีเบตผมเชื่อว่ามีคุณพิธาเท่านั้นที่อายุน้อยที่สุด ไม่มีใครตัวแทนจากพรรคการเมืองอื่นที่มีอายุน้อยกว่าคุณพิธาครับ นั่นก็คือทำให้คุณพิธาได้อันดับหนึ่ง  เหมือนสมัยก่อนเวลาเขารบกัน เขาต้องเอาผ้าโพกหัวของข้าศึก  เวลาจะไปขึ้นรางวัล ต้องเอาผ้าโพกหัวไปขึ้นรางวัลครับ ว่าฆ่าไปกี่คน ก็เช่นเดียวกับการที่คุณพิธาไปดีเบต แล้วชนะแม่ทัพแต่ละพรรคการเมือง มันก็เลยทำให้คุณพิธากลายเป็นฮีโร่ ในหมู่โซเชี่ยลครับ และวันนี้มันก็ก็ก่อติดไปเรียบร้อยนั่นก็คือสิ่งที่ผมชื่นชมคุณพิธา

แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่ผมคิดว่า ผมกับคุณพิธาเห็นต่างกัน แล้วเรามีความเชื่อต่างกันก็คือเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ ผมอยากให้คุณพิธามองถึงคำว่าระเบิดในสนามบินทำไมเขาห้ามพูด ทั้งสิทธิเสรีภาพเราควรพูดได้ แต่ถ้าเราพูดแล้วมันวุ่นวาย คำว่าระเบิด ถ้าพูดว่าระเบิดในสนามบินถูกจับเลยนะครับ ดังนั้นนี่คือข้อตกลงร่วมกันมันก็เฉกเช่นกับสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ วันนี้อย่าให้ใครพูดถึงพระองค์ท่าน สถาบันก็จะแข็งแรงและมั่นคงครับ ฝากทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับ