บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ กัลฟ์ เดินหน้าสานต่อโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 มอบทุนการศึกษาให้กับผู้ป่วยรวม 89 คนในความดูแลของศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อสร้างโอกาสทำตามความฝันให้กับผู้ป่วยของศูนย์ฯ ที่ทางครอบครัวมีรายได้น้อย ให้ได้เข้ารับการศึกษาในระดับสูงสุดตามความมุ่งหวังของครอบครัวและตามศักยภาพทางสติปัญญาและร่างกายของผู้ป่วย โดยโครงการฯ นี้ จะเป็นความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญหลากหลายฝ่าย ประกอบด้วย นักสังคมสงเคราะห์, นักจิตวิทยาของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย นักสังคมสงเคราะห์ประจำจังหวัด อำเภอ และตำบล ผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูประจำชั้น ซึ่งติดตามผลการเรียนของผู้ป่วย การใช้จ่ายของครอบครัว และสภาพความเป็นอยู่ตลอดระยะเวลาที่ได้รับทุน เพื่อประเมินเป็นรายปีว่าทุนนั้นเหมาะสมหรือควรปรับอย่างไรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

นายธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจระบบโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กัลฟ์ร่วมมือกับทางศูนย์ฯมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มมาจากจุดเล็กๆ อย่างการสนับสนุนการดำเนินการของศูนย์ฯ ในด้านต่างๆ มีตัวแทนพนักงานจิตอาสาไปเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้ป่วยและครอบครัว และโครงการคลินิกเคลื่อนที่ ที่อาสาสมัครจากกัลฟ์ไปร่วมสนับสนุนการออกหน่วย ซึ่งในหลายครั้งเราเห็นผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลของศูนย์ฯ ต้องการโอกาสเป็นจำนวนมาก กัลฟ์ จึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” มอบโอกาสทางการศึกษา เพื่อต่อยอดความฝันให้กับเยาวชนในความดูแลของศูนย์ฯ พร้อมเติบโตเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอย่างแข็งแรงทั้งกายและใจ เพราะการให้การศึกษากับเด็กๆ เหมือนกับการติดอาวุธให้เด็กๆ สามารถออกไปเผชิญโลกข้างนอกและเติบโตได้อย่างมีคุณภาพ โดยทุนการศึกษาที่ถูกส่งต่อผ่านโครงการฯ นี้ ทางบริษัทฯ สามารถเชื่อมั่นได้ว่าจะไปถึงมือผู้ป่วยที่ต้องการจริงๆ เนื่่องจากทางศูนย์ฯ มีกระบวนการพิจารณาอย่างรอบด้านตามความเหมาะสมและศักยภาพของผู้ป่วยแต่ละคน เพื่อให้ทุนการศึกษานี้สร้างประโยชน์สูงสุด

ศ.เกียรติคุณ นพ.จรัญ มหาทุมะรัตน์ หัวหน้าศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ กล่าวว่า กว่า 36 ปีที่ผ่านมาของการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะกว่า 3,000 กว่าคน พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ของศูนย์ฯ มักเป็นผู้ที่มีฐานะยากจนและมีภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด ซึ่งทางศูนย์ฯ เอง ก็ได้ให้การรักษาผ่าตัดและช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายมาโดยตลอด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในสังคมได้ ซึ่งการสนับสนุนด้านทุนการศึกษาจากกัลฟ์ เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มาช่วยเติมเต็มและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย ทางศูนย์ฯ ต้องขอขอบคุณกัลฟ์และทุกภาคส่วนที่มีส่วนทำให้โครงการฯ เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม

           

รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ในนามของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ต้องขอขอบคุณบริษัทกัลฟ์ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสนับสนุนความฝันของกลุ่มผู้พิการทางใบหน้าและกะโหลกศีรษะ จนทำให้เกิดโครงการดีๆ เช่นนี้ นอกจากนี้กัลฟ์ก็ยังให้การสนับสนุนช่วยเหลือโรงพยาบาลจุฬาฯ ในอีกหลายเรื่อง อาทิ สนับสนุนการออกหน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ของคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และช่วยสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ ที่จำเป็นอีกด้วย ซึ่งการที่ทุกภาคส่วนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ และบูรณาการความช่วยเหลือกันในสิ่งที่ตัวเองถนัดจะช่วยให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายณัฐนนท์ ประมูลศรี ตัวแทนนักเรียนที่ได้รับทุนจากโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” กล่าวว่า ปัจจุบันผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนนาฏศิลป์ จ.สุพรรณบุรี ผมชอบเล่นดนตรีมากๆ และชอบตีกลองตะโพน เพราะเป็นเครื่องดนตรีที่จะได้เล่นเป็นวงร่วมกับเพื่อนๆ ผมมีความฝันอยากเป็นครูสอนดนตรี ซึ่งการที่ผมได้รับทุนการศึกษาจากกัลฟ์มาต่อเนื่องเป็นปีที่4 แล้ว ทำให้ผมกล้าที่จะฝัน และสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้

โดยความร่วมมือระหว่างกัลฟ์ และศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ในการดำเนินโครงการ “หนึ่งทุน หนึ่งฝัน ปั้นอนาคต” ตลอดระยะเวลากว่า 5 ปี ได้มอบงบประมาณสนับสนุนจำนวนกว่า 5 ล้านบาท สร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่ผู้ป่วยได้ถึง 89 คน โดยผู้ได้รับทุนอยู่ในระดับการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ไปจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับทุนไปจนถึงระดับการศึกษาที่ผู้ป่วยรายนั้นต้องการ โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและสติปัญญา ซึ่งทุนที่นักเรียนได้รับจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวอย่างครอบคลุมในทุกมิติอีกด้วย