จากกรณี เกิดเหตุยิงกันภายในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน บริเวณชั้นเอ็ม ถนนพระราม 1 โดยมีเสียงปืนดังขึ้น ทำให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการต่างวิ่งหลบหนีออกจากห้างฯอย่างโกลหล เหตุเกิดเมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 3 ต.ค.66  เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 5 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 4 ต.ค.66 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการหารือกรณีเยาวชนอายุ 14 ปี ใช้อาวุธก่อเหตุความรุนแรงเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.66) ในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดติดตามสถานการณ์ 

โดยจากการตรวจสอบ พบว่า เยาวชน ศึกษาที่สถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนตามอัธยาศัย ถือว่าเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมมาก มีนักเรียนกว่า 800 คน มีครูประมาณ 100 คน อัตราครูต่อนักเรียนอยู่ที่ 1 ต่อ 7 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่เพียงพอในการดูแลเด็ก 

โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อหาเหตุจูงใจให้ได้ รวมถึงเพื่อหาแนวทางป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์รูปแบบนี้อีก และขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการยังไม่ด่วนสรุปว่าเป็นความผิดของหน่วยงานไหน 

เบื้องต้นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา ได้ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จากการสอบถามพบว่า เด็กอาจมีสภาวะด้านจิตใจ แต่ยังไม่สามารถตัดสินได้ อีกทั้ง ได้มีการสอบถามสาเหตุของการก่อเหตุจากผู้ปกครองแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัด เนื่องจากอาจยังไม่พร้อมให้ข้อมูล ส่วนประเด็นที่สาเหตุอาจมาจากการที่เยาวชนติดเกมส์หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่อยากด่วนสรุปว่าเป็นเพราะเกมส์ที่ทำให้มีการก่อเหตุเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ การจะยับยั้งหรือดูแลเฉพาะครูและโรงเรียนคงไม่เพียงพอ ควรให้ผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิดว่าภายในสมาร์ทโฟนของลูกมีแอปพลิเคชันอะไรที่อาจทำให้เกิดความรุนแรง รวมไปถึงสื่อต่างๆในสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนต้องมีผู้ที่รู้สภาพจิตใจของเด็ก ซึ่งเน้นย้ำว่าโรงเรียนควรมีครูแนะแนว และครูอันเป็นที่รัก เพื่อให้ทราบถึงการติดต่อสื่อสารกับเด็กด้วย 

#พารากอน #สยามพารากอน #กราดยิง #กราดยิงพารากอน