นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมไตรมาส 4 ปีนี้ ยังเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่อง มียอดจองการเดินทางล่วงหน้า (บุ๊กกิ้ง) เฉลี่ย 70-80% โดยเฉพาะเส้นทางตลาดยุโรปและออสเตรเลียที่มียอดจองเต็มทุกเที่ยวบิน ชี้ให้เห็นว่าท่ามกลางสถานการณ์สงครามอิสราเอลและฮามาส ประกอบกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ยังไม่เป็นปัจจัยกระทบการตัดสินใจเดินทางของผู้โดยสารในระยะสั้นนี้

อย่างไรก็ตามขณะที่ตลาดจีนต้องยอมรับว่าปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวมากนัก อาจเพราะปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ประกอบกับเหตุการณ์กราดยิงในห้างพารากอนช่วงที่ผ่านมา ส่งผลต่อการตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจในการเดินทาง แต่การบินไทยประเมินว่าอาจจะเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้น ทำให้ขณะนี้การบินไทยยังคงเตรียมแผนทำการบินรองรับดีมานด์ของผู้โดยสารที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว และมั่นใจว่ายังมีขีดความสามารถเพียงพอ เนื่องจากปัจจุบันอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิเนแฟกเตอร์) ตลาดจีนยังเฉลี่ยอยู่เพียง 60%

นายชาย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามการบินไทยยังมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันองค์กรออกจากแผนฟื้นฟูได้ตามเป้าหมายในปลายปี 2567 โดยปัจจุบันการบินไทยได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูไปแล้วกว่า 90% เหลือเพียงการรอประเมินรายได้ในช่วงกลางปีหน้า เพื่อทำให้ส่วนทุนเป็นบวก และเริ่มขั้นตอนการขายหุ้นเพิ่มทุน ขณะที่กระแสเงินสดในมือ (แคชโฟว์) ปัจจุบันยังคงสูงไม่ต่ำกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งมีสะสมอยู่ราว 5.1 หมื่นล้านบาท

ส่วนกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทย โดยมอบหมายให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานนั้น ตนไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาของการบินไทย อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีคณะกรรมการติดตามการดำเนินการแก้ไขปัญหาบริษัทการบินไทยอยู่แล้ว