นายนิกร จำนง สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สปท. กล่าวว่า กมธ.ได้ข้อสรุปแนวทางปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนแล้ว เตรียมนำเข้าสู่ที่ประชุมสปท.วันที่ 2 ส.ค.นี้ เพื่อลดจำนวนอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ที่ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก คิดเป็น 2,020 คนต่อเดือน หรือ 66 คนต่อวัน ขณะที่คดีอุบัติเหตุจราจรทางบกก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2554 มี 61,213 คดี เป็น 69,394 ในปี 2558 โดยจะแบ่งการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนนเป็น 3 ระยะได้แก่ 1.แผนเร่งด่วนระยะสั้น เป็นมาตรการเร่งด่วนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2560 ตั้งเป้าลดการเสียชีวิตช่วง 7 วันอันตราย ไม่ให้เกิน 361 ราย หรือลดลงร้อยละ 5 จากยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2559 หากไม่มีมาตรการรองรับที่ทันการณ์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตในปีใหม่นี้จะเพิ่มมากกว่า 400 ราย โดยมีมาตรการอาทิ การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง การควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นายนิกรกล่าวว่า 2.แผนแม่บทระยะกลาง เป็นแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนช่วง 5 ปีคือปี 2560–2564 มีเป้าหมายลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 17,000 ราย โดยกำหนดยุทธศาสตร์อาทิ กฎหมายความปลอดดภัยทางถนน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน ถนนปลอดภัย รถยนต์ปลอดภัย 3.แผนระยะยาวแบบยั่งยืน เป็นการสร้างสังคมไทยให้มีความปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนน อาทิการตั้งศาลจราจร การสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีพฤติกรรมปลอดภัย การมีระบบขนส่งสาธารณะเพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุ นอกจากนี้กมธ.ยังเสนอมาตรการใหม่ในการสร้างความปลอดภัยทางถนนเช่น การปรับปรุงกฎหมายเรื่องปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่เป็นเยาวชน และผู้มีใบขับขี่ครั้งแรก จากเดิมให้มีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เป็น 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตลอดจนการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดชนแล้วหนี กรณีเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การแยกใบขับขี่รถจักรยานยนตขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) ออกจากรถจักรยานยนต์ธรรมดา การจัดตั้งศาลจราจร หากที่ประชุมสปท.ให้ความเห็นชอบแผนดังกล่าว จะนำเสนอต่อครม. เพื่อพิจารณาให้มีผลทางปฏิบัติต่อไป