วันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.อ.อนุพันธ์ สุสม ผกก.สภ.เมืองพิจิตร ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ซึ่งเป็นบ้านไม้ตั้งอยู่บริเวณหลังโรงเรียนบ้านหัวดง เลขที่ 209 หมู่ 1 ต.หัวดง อ.เมือง จ.พิจิตร พบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย ชื่อ นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง
จากการสอบถามนายสมพร (สงวนนามสกุล)อายุ 32 ปี ลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติแล้วบ้านหลังที่ถูกไฟนี้จะอาศัยอยู่กันสองคน คือ นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี (ผู้ตาย ซึ่งเป็นพ่อของตน ) และ แม่ คือ นางสาหร่าย(สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นแม่ของตน ส่วนตนเองและครอบครัวนั้นอาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งไม่ไกลกันมากนัก
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาแม่ของตนมีอาการปวดท้องจึงให้ไปนอนพักที่บ้านของตนเพื่อรอเวลาเช้าจะได้พาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาล และก่อนที่จะเกิดเหตุไฟไหม้บ้าน ลูกสาวของตน ยังได้นำของกินมาให้ตาสมพงษ์ ( ผู้ตาย) อยู่เลยเนื่องจากผู้ตายเดินไม่ได้ มีภาวะเป็นผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงด้วยโรคประจำตัวที่รุมเร้า จนกระทั่งตนและเพื่อนบ้านเห็นว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งที่บ้านของพ่อ จึงรีบเข้าไปดูก็พบว่าบ้านของพ่อถูกไฟไหม้วอดแล้วทั้งหลังแล้ว และนายสมพงษ์ ผู้เป็นพ่อนอนเสียชีวิตอยู่ในกองเพลิง เนื่องจากไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในขณะที่ไฟไหม้
เบื้องต้นนายสิงหราช วงษ์เสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนางกานต์สินี วงษ์เสงี่ยม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมถึง นายพีระโรจน์ ภัทรประสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลหัวดง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสรรเพชญนำร่างของ นายสมพงษ์ (ผู้ตาย) ไปส่งชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก ก่อนที่ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีศาสนาต่อไป รวมถึงพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ก็จะได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้
โอกาสนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตรได้มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอัคคีภัย 8,000 บาท พร้อมชุดธารน้ำใจเครื่องอุปโภคบริโภค สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มอบเงินช่วยเหลือ 3,000 บาท สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร มอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน 3,000 บาท รวมถึงเงินค่าจัดการศพผู้สูงอายุ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 3,000 บาท แล้วอีกด้วย
