โปแลนด์และไทย มีความเชื่อมโยงโดยข้อตกลงผูกพันของความเป็นมิตรภาพและความเคารพระหว่างกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งดำเนินมานานกว่า 50 ปี พวกเราสามารถบันทึกจดจำด้วยความพึงใจในความสำเร็จจากความร่วมมือกันทั้งในด้านเศรษฐกิจและการลงทุน ในขณะเดียวกัน พวกเราก็ได้เห็นถึงศักยภาพที่เป็นไปได้อันยิ่งใหญ่สำหรับการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือระหว่างกันในขอบเขตพื้นที่ของความสัมพันธ์ทางการเมือง การลงทุน และอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศ
ข้าพเจ้ามีความเชื่ออย่างลึกซึ้งว่า ถึงแม้สถานการณ์ระหว่างประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบากจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อปีที่แล้วเป็นต้นมา แต่ทว่า ในความพยายามร่วมกันของพวกเรา ก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเรา ที่อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดี ความร่วมมือกันที่แข็งแกร่ง และมีพลวัตรขับเคลื่อนใหม่อันนำมาซึ่งผลประโยชน์ของพวกเราทั้งสองชาติ
เรามีความภาคภูมิใจในประเทศของพวกเรา จากการที่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ มีบรรดาวีรบุรุษ มีเกียรติยศเป็นประการต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ชัยชนะใน “การต่อสู้แห่งวอร์ซอว์ (Battle of Warsaw)” ในปี 1920 (พ.ศ. 2463) ที่สามารถหยุดยั้งการรุกรานยุโรปของคอมมิวนิสต์รัสเซียไว้ได้ ซึ่งส่งผลให้เกือบทั้งโลกมีสันติภาพมายาวนานถึง 2 ทศวรรษในเวลาต่อมา
โปแลนด์ได้ก่อตั้งมานานกว่า 1,050 ปี พระมหากษัตริย์ของพวกเรา ประชาชนในชาติของพวกเรา สามารถสร้างให้เป็นรัฐมหาอำนาจตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ด้วยเขตดินแดนการปกครองที่ใหญ่ที่สุดในยูโรป ณ เวลานั้น คล้ายคลึงกับ “สหภาพยุโรปกลาง” ซึ่งตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา โปล คือ ชาวโปแลนด์ ได้อาศัยอยู่ในรัฐที่สงบสันติ ร่วมกับชาวยูเครน ชาวเบลารุสเซียน ชาวลิทัวเนียน ชาวเยอรมัน ชาวเอสโตเนียน ชาวลัตเวียน ชาวยิว และชาวโรมาเนียน
วันนี้ พวกเราได้เสนออยู่บ่อยครั้ง ให้บรรดาประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น จากเดิมที่เหินห่างกันในอดีต ในภูมิภาคแห่งนี้ซึ่งขยายจากโปแลนด์ในทางเหนือ ลงสู่ทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางใต้ มีศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างมหาศาลของประเทศเกือบ 20 ประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ ที่การร่วมมือระหว่างกันของประเทศเหล่านี้ จะมาซึ่งผลประโยชน์อย่างมหาศาลในอนคต รวมถึงผลประโยชน์ร่วมกันในทางภูมิรัฐศาสตร์
โปแลนด์ ณ ปัจจุบันนี้ ถือเป็นหนึ่งในประเทศของสหภาพยุโรป หรืออียู ที่เจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง มีการพัฒนาและมีนวัตกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงยังถือเป็นผู้สร้างเสถียรภาพในภูมิภาคในฐานะชาติสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต วิถีทางแห่งเสรี ความปลอดภัย และความแข็งแกร่งของโปแลนด์ในวันนี้ ได้เริ่มขึ้นในปี 1979 (พ.ศ. 2522) เมื่อผู้ที่ถูกยกย่องให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ของชาวโปล สันตะปาปาหรือโป๊ป จอห์น ปอล ที่ 2 ประมุขคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิกครั้งอดีต ได้เสด็จฯ เยือนโปแลนด์ ประเทศบ้านเกิดของพระองค์ ซึ่งในขณะนั้นสหภาพโซเวียตเข้ามายึดครอง พร้อมทั้งถูกเรียกขานว่า การเผชิญหน้าของโลก พระองค์มีพระดำรัสกับเหล่าประชาชนชาวโปแลนด์ที่มาเข้าเฝ้าฯ ซึ่งเป็นผู้สร้างขบวนการน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หรือโซลิดาริตี อันเป็นขบวนปลดปล่อยหรือปลดแอกที่ไม่ใช้ความรุนแรงในโปแลนด์ ที่ในอีก 10 ปีต่อมา ก็ทำให้อาณาจักรเผด็จการรัสเซียล่มสลาย พร้อมกับระบอบสหภาพโซเวียตถูกขับออกไป ก่อนที่จะส่งผลให้หลายประเทศในยุโรปกลาง ได้เริ่มเข้าสู่บาทวิถีของสหภาพยุโรป หรืออียู และนาโต ในเวลาต่อมา
เมื่อพวกเราเฉลิมฉลองวันชาติ พวกเราสามารถรู้สึกภาคภูมิใจและรื่นเริงสนุกสนาน ซึ่งถึง ณ ปัจจุบันนี้ได้เข้าสู่ทศวรรษที่ 3 แล้ว พวกเราถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพลวัตรขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวเติบโตมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเป็นรองเพียงประเทศจีนเท่านั้น ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ที่เติบโตจนแซงหน้าบรรดาประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจของโลกในหลายๆ ประเทศ
วันนี้ข้าพเจ้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของโปแลนด์ พวกเราได้แบ่งปันประสบการณ์ และขนบประเพณีต่างๆ พวกเราทั้งสองต่างเป็นชาติที่รักในเสรีภาพ เศรษฐกิจของพวกเราและความร่วมมือด้านการลงทุนกำลังเติบโต พลเมืองจากประเทศไทยเป็นจำนวนมากต่อมากได้เดินทางไปยังโปแลนด์ เช่นเดียวกันกับชาวโปลที่เดินทางมายังประเทศไทย
สุดท้ายนี้ ข้าพเจ้านำพระดำรัสที่งดงามของโป๊ปจอห์น ปอล ที่ 2 ที่ตรัสถึงเรื่องความรักชาติ ซึ่งมีความหมายว่า การรักต่อทุกสรรพสิ่งที่เป็นของมาตุภูมิ ความรักต่อประวัติศาสตร์ ขนบประเพณี ภาษา ทิวทัศน์ภูมิประเทศของตน และมันยังเป็นความรักที่มีต่อการทำงานของเพื่อนร่วมชาติ และผลพวงของความสามารถพิเศษต่างๆ นอกจากนี้ จากการมาตุภูมิของเราถูกคุกคาม ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นบททดสอบของความรักที่มีต่อมาตุภูมิของตน
ข้าพเจ้ามั่นใจว่า ประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นผู้รุ่มรวยด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม จะเข้าใจในความขนบประเพณีในความกล้าหาญ และความรักในมาตุภูมิของชาวโปแลนด์เป็นอย่างดี
อาร์ตูร์ ดมอคอว์สกี
เอกอัครราชทูตแห่งสาธารณรัฐโปแลนด์ประจำราชอาณาจักรไทย